ผมเพิ่งไปเชียงใหม่มาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทุกเที่ยวบินเต็มหมด ร้านอาหารชื่อดังเต็มทุกร้าน ร้านระดับมิชลินแพลตขายคืนละ 2 รอบ สวนดอกไม้ I Love Flower Farm ที่แม่ริม เดือนพฤศจิกายนจองเต็มแล้วทั้งเดือน ทำให้สวนดอกไม้ขนาดเล็กนับร้อยแห่งที่แม่ริมคึกคักไปด้วย เกิดธุรกิจร้านอาหารร้านกาแฟและธุรกิจต่อเนื่องมากมาย ร้านอาหารบนถนนนิมมานเหมินท์ที่เงียบเหงา วันนี้กลับมาเปิดใหม่แล้ว ที่ขาดไปก็คือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีสัดส่วน 10% ของนักท่องเที่ยวเชียงใหม่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทย
ผมก็เก็บบรรยากาศมาเล่าสู่กันฟังจะได้มีกำลังใจ เศรษฐกิจหลายจังหวัดเริ่มฟื้นตัวช้าๆ จากกำลังซื้อคนไทยในประเทศ การสร้างงานเพื่อให้เงินหมุนไป จึงสำคัญกว่าการแจกเงิน ก็หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะมองภาพใหญ่นี้ออก
ภาคการท่องเที่ยว ที่ผมนำมาเล่าสู่กันฟังนี้ เป็นภาคเศรษฐกิจที่รัฐบาลทุ่มเทมาก แต่ยังมีเศรษฐกิจอีกภาคที่เกิดใหม่และเติบโตอย่างรวดเร็วก็คือ “เศรษฐกิจดิจิทัล” ในยุคโควิดอาละวาด วันก่อน กูเกิล, เทมาเส็ก, เบนแอนด์คอมปานี ได้เปิดเผยงานวิจัยร่วม “เศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2563” ระบุว่า เศรษฐกิจดิจิทัลไทยมีการขยายตัวราว 7% จากปีที่แล้ว มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 16,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2562 เป็น 18,000 ล้านดอลลาร์ ราว 558,000 ล้านบาท ในปี 2563 ก็ถือว่ามากทีเดียว ไทยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย คาดว่าปี 2568 มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 53,000 ล้านดอลลาร์ ราว 1.643 ล้านล้านบาท เติมโตขึ้น 25% คิดเป็นมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว
เห็นไหมครับ โอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยยังมีอีกหลายช่องทาง รัฐบาลไม่ควรโฟกัสอยู่ที่ การท่องเที่ยว และ การส่งออก ที่กำลังมีปัญหาทั่วโลก แล้วทิ้งโอกาสของ “เศรษฐกิจดิจิทัล” ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลกรวมทั้งไทยด้วย
งานวิจัยได้เปรียบเทียบเศรษฐกิจดิจิทัลไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เวียดนาม และ อินโดนีเซีย เป็นสองประเทศที่ มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นตัวเลขสองหลัก สูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน เศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนามขยายตัว 16% จาก 12,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2562 เป็น 14,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่ก็ยังน้อยกว่าไทย อินโดนีเซียเศรษฐกิจดิจิทัลขยายตัว 11% จาก 40,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2562 เป็น 44,000 ล้านดอลลาร์ ราว 1.364 ล้านล้านบาทในปีนี้ มากกว่าไทยเท่าตัว
งานวิจัยกูเกิล-เทมาเส็ก ประเมินว่า เศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2563 จะมีมูลค่าทะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์ กว่า 3.1 ล้านล้านบาท เพราะปีนี้มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 40 ล้านคน ทำให้ปัจจุบันมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในภูมิภาคนี้กว่า 400 ล้านคน ราว 70% ของประชากรทั้งหมด คาดว่ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 ล้านดอลลาร์ ราว 9.3 ล้านล้านบาทในปี 2568 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้า
ท่ามกลางวิกฤติก็มีโอกาส ก็อยู่ที่รัฐบาลประเทศไหนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองเห็นโอกาสและคว้าโอกาสไปได้มากกว่าเพื่อน
เมื่อเห็นโอกาสแล้ว “เงิน” ก็เป็นปัจจัยสำคัญ จึงไม่แปลกที่เห็น วารสาร การเงินธนาคาร จัดงาน มหกรรมการเงิน Money Expo ต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจและประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินการลงทุนทุกรูปแบบ วันที่ 13-15 พฤศจิกายนนี้ ก็จะไปจัดงาน มหกรรมการเงิน Money Expo หาดใหญ่ ครั้งที่ 10 ที่ ศูนย์การค้าเฟสติวัลหาดใหญ่ โดยมี คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรัฐมนตรีพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานใน วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. และ คุณนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ไปร่วมเปิดงานด้วย
งานนี้ จัดเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอีและประชาชนใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างโดยเฉพาะ มีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เลือกมากมาย ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว.
“ลม เปลี่ยนทิศ”