คมนาคม เด้งรับค้านย้ายหมอชิต 2 พร้อมขอสงวนท่าทีเหตุมีพันธสัญญาใช้พื้นที่กับธนารักษ์ก่อน รวมถึงหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ ด้านประธานบอร์ด บขส.ย้ำชัดขณะนี้ขอต่อสัญญากับ รฟท. เพื่อขอเช่าพื้นที่หมอชิต 2 ต่อไป
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 63 วิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ผู้แทนชุมชนหลังหมอชิตเก่า และผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ หรือ หมอชิต 2 และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กลับมาใช้พื้นที่หมอชิตเก่า
โดยได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่องกรณีตามที่พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พ.ศ.2563 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา แจ้งเกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา
สำหรับการรับหนังสือคัดค้านจากชาวชุมชนครั้งนี้ ต้องบอกว่าเข้าใจมากที่คนอยู่มา 30-40 ปี ย่อมมีความผูกพัน ส่วนการจะมีนโยบายอย่างไร ย้ายหรือไม่ย้ายนั้นกระทรวงคมนาคมขอหารือให้มีความรอบคอบก่อน ซึ่งจะคำนึงที่จะไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นหลัก
ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวข้างต้นนั้น ในขณะนี้อยู่ระหว่างการหาข้อสรุปการย้ายหมอชิต 2 กลับมาใช้พื้นที่หมอชิตเก่า ซึ่งในปัจจุบัน บขส. ได้หารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศ หรือ รฟท.เพื่อขอเช่าพื้นที่ต่อไป โดยยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะย้ายหมอชิต 2 เนื่องจากตอนนี้มีปัญหาจราจรติดขัด ขณะที่สร้างทางเชื่อมทางยกระดับนั้น ยอมรับว่า เป็นไปได้ยาก เพราะอาจสร้างมลพิษให้กับชุมชนหลังหมอชิตเก่าได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกต่อไป
สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บขส. กล่าวว่า บขส.จะดำเนินการต่อสัญญากับ รฟท. เพื่อขอเช่าพื้นที่หมอชิต 2 ต่อไป และอยู่ระหว่างรอท่าทีการพัฒนาพื้นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ทาง บขส. ยังไม่มีนโยบายให้ย้ายหมอชิต 2 กลับมาที่หมอชิต 1 เพราะในปัจจุบันพื้นที่เดิมมีระบบขนส่งสาธารณะที่พร้อมเชื่อมต่ออยู่ในพื้นที่เดียวกันทั้ง รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง และเชื่อมต่อสายสีเขียวได้และยังมีสถานีกลางบางซื่อที่รองรับรถไฟความเร็วสูง รถไฟชานเมือง รวมถึงอู่รถเมล์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)และ บขส.อยู่ระหว่างดำเนินการต่อสัญญากับ รฟท. เพื่อขอเช่าพื้นที่หมอชิต 2 ต่อไป และอยู่ระหว่างรอท่าทีการพัฒนาพื้นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
ขณะเดียวกันยอมรับว่า บขส.มีพันธสัญญาเดิมที่เคยมีกับ กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ดังนั้นจึงยังคงมีพันธะเดิมและยังสงวนท่าทีอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่การจะย้าย หรือ ไม่ย้าย ปัจจัยได้เปลี่ยนไปหมดแล้วเพราะขณะที่ย้ายไปหมอชิต 2 ในอดีต พื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีการพัฒนาเช่นปัจจุบัน
ล่าสุด ขณะนี้ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้รับผิดชอบในการศึกษาถึงความจำเป็นและความเป็นไปได้ในการย้ายเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งสนข. จะต้องมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กรุงเทพมหานคร สนข. บขส. รวมทั้งให้ สนข. ประสานกับ กทม. เรื่องการออก พระราชกฤษฎีกาเวนคืน เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
ส่วนการใช้พื้นที่จะดำเนินการอย่างไรต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดังนั้นจึงอยากให้ชาวชุมชน และ ทุกคนสบายใจได้ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับประชาชน และนโยบายกระทรวงคมนาคม จะไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน การมาพบครั้งนี้เป็นครั้งแรกและไม่เป็นครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน เมื่อได้ข้อสรุปอย่างไรในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรีบแจ้งทันที
ขณะที่ นายปัญญา ชูพานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า สนข. ได้ร่วมกับ รฟท. จัดทำแผนพัฒนาสถานีกลางบางซื่อและพื้นที่โดยรอบสถานีฯ โดยมีองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) เข้ามาช่วยดำเนินการวางแผนศึกษา ซึ่งแผนดังกล่าว จะแบ่งพื้นที่ในการพัฒนา แต่ยังไม่ได้ระบุชัดว่าต้องย้ายหมอชิต 2 หรือไม่