เปิดกำไรปาท่องโก๋การบินไทย

แม้ศาลล้มละลายกลางได้ตัดสินให้การบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ พร้อมกับตั้ง 6 อรหันต์เป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีขั้นตอนทางกฎหมายอีกมากมาย กว่าที่การบินไทยจะเริ่มเดินสู่กระบวนการฟื้นฟูได้จริงจัง เพราะจะต้องมีการจัดทำแผนฟื้นฟูเสนอต่อศาล ซึ่งคาดว่าจะจบภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และหากศาลเห็นชอบจะเริ่มกระบวนการฟื้นฟูตามแผนได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างกระบวนการฟื้นฟูกำลังเดินหน้า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เราได้มองเห็นความพยายามของการบินไทยในการขยับสู่การหารายได้ผ่านธุรกิจอื่น ที่ไม่ใช่ธุรกิจการบินหลักเพียงอย่างเดียว แม้ว่าในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด การบินไทยจะมีรายได้จากธุรกิจคาร์โก้ (รับส่งสินค้าใต้ท้องเครื่อง) เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องขยับขยายที่จะเพิ่มรายได้อื่นๆเพิ่ม

ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ “ปาทองโก๋ สังขยามันม่วง” ที่กลายเป็นเมนูฮอตแห่งปี ขายชุดละ 50 บาท ใน 7 สาขา ประกอบด้วยสาขาสีลม, ดอนเมือง, วิภาวดีรังสิต, ภูเก็ต, เชียงใหม่, หลานหลวง และล่าสุดที่ตึกเอ็นโก้ ปตท. สำนักงานใหญ่ โดยปัจจุบันมียอดผลิตอยู่ที่ 20,000 ตัวต่อวัน ยอดขายเดือนละ 10 ล้านบาท มีเป้าหมายที่จะขยับยอดผลิตให้ได้ 40,000 ตัวต่อวันเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ

รวมไปถึงการ เปิดภัตตาคารที่จำลองบรรยากาศการให้บริการบนเครื่องบิน Royal Orchid Dining Experience ที่สาขาสำนักงานใหญ่และสาขาสีลม เพื่อให้ลูกค้า คนทั่วไปได้สัมผัสประสบการณ์อาหารอร่อยชั้นฟ้าไม่ต้องบินก็ฟินได้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก จนได้ขยายเวลาการให้บริการ ตั้งแต่วันจันทร์-อาทิตย์ โดยสาขาสำนักงานใหญ่ การบินไทย เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น. และสาขาสีลม เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 06.30-14.00 น.

นอกจากนั้น การบินไทยยังพยายามนำวัสดุเหลือใช้ ตั้งแต่ชูชีพ ผ้าใบแพยางที่หมดอายุการใช้งานแล้ว มาผลิตเป็นกระเป๋า Re-life Collection ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว ซึ่งหลังเปิดตัวไม่นานก็ขายหมดเกลี้ยง จึงมีแผนที่จะนำผ้าหุ้มเบาะโดยสารที่เหลือค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งนำแกนล้อเครื่องบิน ยางล้อเครื่องบิน มาผลิตเป็นข้าวของเครื่องใช้เพิ่มเติม หลังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ปลายเดือนนี้การบินไทยยังมีดำริจัดเที่ยวบินพิเศษเพิ่มรายได้ เปิดตัวแคมเปญ “มงคลบนฟากฟ้าบินผ่าน 99 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใน 31 จังหวัด” สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางพร้อมเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตด้วยเครื่องบิน บินวนไม่ลงจอดพร้อมสวดมนต์ภาวนาบนเครื่อง นำสวดโดย อาจารย์คฑา ชินบัญชรนาน 3 ชั่วโมง ราคาบัตรโดยสารชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 5,999 บาท ชั้นธุรกิจ เริ่มต้นที่ 9,999 บาท

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากที่เคยมีรายได้ เดือนละ 10,000 ล้านบาท ในช่วงโควิดการบินไทยมีรายได้เหลือแค่เดือนละ 500-600 ล้านบาท ล่าสุดในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา รายได้ขยับขึ้นมาเป็นเดือนละ 1,000 ล้านบาท จากธุรกิจคาร์โก้ และความพยายามในการสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น ขายปาท่องโก๋

“แม้ว่าธุรกิจหลักของเราจะทำรายได้ระดับแสนล้านบาทต่อปี จนถูกคนตั้งคำถามว่าต้องขายปาท่องโก๋กี่แสนตัวถึงจะล้างหนี้ได้ ต้องตอบว่าเราคงอยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องพยายามสู้ สร้างขวัญกำลังใจให้พนักงาน และความจริงก็คือ กำไรจากการขายปาท่องโก๋ 1 วัน ใน 7 โลเกชันที่วางจำหน่ายอยู่ มีกำไรเท่ากับการทำการบิน 1 เที่ยวบิน เพราะขายปาท่องโก๋ได้มาร์จิ้นสูงกว่าธุรกิจการบิน ซึ่งการแข่งขันสูงและมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่ควบคุมไม่ได้”

ส่วนโอกาสในการสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ๆซึ่งจะเป็น New S-curve ของการบินไทยนั้น กำลังอยู่ระหว่างทำแผนเพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยในระยะสั้นได้มองไปถึงการขายแฟรนไชส์ปาท่องโก๋ ร้านอาหารการบินไทย ลานไวน์รับลมหนาวที่สำนักงานใหญ่ การบินไทย วิภาวดีรังสิต รวมทั้งการเปิดให้เช่าอาคารสำนักงานที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์

“มาถึงวันนี้ผมมั่นใจว่าเราจะเดินหน้าต่อไปได้ การบินไทยจะกลับมาอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้เราจะไม่หมิ่นเงินน้อยไม่คอยวาสนา” นายชาญศิลป์กล่าวปิดท้ายในที่สุด.

สุรางค์ อยู่แย้ม