นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์เหลือเพียง 0.01% จากเดิม 2% และลดค่าจดทะเบียนจดจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือเพียง 0.01% จากเดิม 1% สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.2562 และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 ธ.ค.2563 แล้วนั้น
การเคหะแห่งชาติ จึงขอเชิญชวนให้ลูกค้าโครงการบ้านเอื้ออาทรเร่งติดต่อขอยื่นคำร้องนัดวันโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 16 พ.ย.2563 เพื่อที่ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์จะดำเนินการนัดวันไปโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พ.ย.2563 เนื่องจากต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าก่อนที่จะหมดระยะเวลาตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล โดยลูกค้าที่ต้องการโอนกรรมสิทธิ์จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ คือ มีการทำสัญญาซื้อบ้านหรือห้องชุดกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยการเคหะแห่งชาติเป็นผู้ค้ำประกันครบ 5 ปี รวมทั้งไม่มีหนี้ค้างชำระกับธนาคาร และคู่สมรสสามารถมาเซ็นยินยอมได้ในวันโอนกรรมสิทธิ์
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ในฐานะผู้รับจำนองได้ให้ความร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ ในฐานะผู้โอนกรรมสิทธิ์โครงการบ้านเอื้ออาทรอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเอื้ออาทรทั่วประเทศที่ทำสัญญากู้เงินครบ 5 ปี ในปี 2563 และปฏิบัติตามเงื่อนไขเรียบร้อยแล้ว “ไม่อยากพลาดประโยชน์ในการลดภาระค่าใช้จ่ายจากเดิม ที่ต้องชำระรวมกัน 12,000 บาท ลดเหลือเพียง 80 บาทเท่านั้น”.