บขส.พลิกเกมสู้ขนส่งสินค้าเต็มสูบ

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า มีนโยบายให้ฝ่ายบริหาร บขส.ไปจัดทำแผนการตลาดใหม่ โดยเน้นสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์แบบเต็มรูปแบบ จากเดิมบรรทุกสินค้าและพัสดุใต้ท้องรถหรือที่นั่งที่เหลือขนเท่านั้น ให้ปรับมาทำธุรกิจแบบเต็มรูปแบบ ใช้รถขนทั้งคัน เป็นต้น มั่นใจหากทำตามแผน จะสร้างรายได้ให้ บขส. เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวและสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน

แนวทางดังกล่าวจะต้องหารือกันในที่ประชุมบอร์ดที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ต.ค.นี้ และต้องเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อเปลี่ยนมติ ครม. เมื่อปี 2502 ที่กำหนดให้การดำเนินธุรกิจขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์เป็นขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (รสพ.)ซึ่งเคยเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมมาก่อน แต่ปัจจุบันถูกยุบไปแล้ว โดย บขส.นั้นมติ ครม.กำหนดให้บริการรับส่งผู้โดยสารเป็นหลัก

“ปัจจุบันพฤติกรรมการเดินทางของผู้โดยสารเปลี่ยนไป หันไปเดินทางด้วยสายการบินต้นทุนต่ำ และยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้การเดินทางเส้นทางไกลปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 50-60% เท่านั้น ขณะที่การบรรทุกสินค้าและพัสดุภัณฑ์ที่ บขส. ดำเนินการอยู่เฉพาะใต้ท้องรถโดยสาร ทำรายได้ถึง 100 ล้านบาทต่อปี ทำให้มั่นใจว่าหากบุกตลาดขนส่งสินค้าอย่างเป็นรูปธรรม จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า หรือ 300 ล้านบาทต่อปี โดยนอกจากรับขนส่งสินค้าของบุคคลทั่วไปแล้ว จะเจรจากับลูกค้าองค์กรที่ต้องการส่งสินค้าด้วย ตลอดจนการขนส่งสินค้าโอทอป”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากจะย้อนกลับไปดูผลประกอบการของ บขส.ในช่วงที่ผ่านมา จะพบว่า บขส.ต้องแบกรับต้นทุนการกำกับดูแลผู้ประกอบการรถร่วม การตรึงราคาค่าโดยสาร รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค การใช้สถานีต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2559 แต่ก็ยังมีผลประกอบการที่เลี้ยงตัวเองได้ โดยในปี 2560 บขส.มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาท ส่วนในปี 2561 ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น ทำให้ขาดทุน 94 ล้านบาท ปี 2562 สามารถสร้างรายได้จากการเดินรถ และธุรกิจอื่นๆ มีกำไร 168.35 ล้านบาท แต่ศาลสั่งให้จ่ายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับพนักงานกว่า 100 ล้านบาท ทำให้สิริรวมขาดทุนในหลักสิบล้านบาท ขณะที่ในปี 2563 คาดว่าสถานการณ์จะย่ำแย่เพราะการเดินทางลดลงอย่างน่าตกใจ จากเดิมมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการกว่า 70,000 คนต่อวัน เหลือไม่ถึง 30,000 คนต่อวันเท่านั้น.