นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และผู้จัดการกองทุนซึ่งมีผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด 22 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ 16 บริษัท บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 5 บริษัท และบริษัทโกลด์ ฟิวส์เจอร์ส 1 บริษัท พบว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีปีนี้ขยายตัวติดลบ 7.81% ส่วนปีหน้ามองว่าจีดีพีจะขยายตัวเป็นบวกเฉลี่ยอยู่ที่ 3.91% นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้เสนอให้ลดภาษีบุคคลธรรมดาเพื่อช่วยผู้ว่างงานและกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน “ผู้ตอบแบบสำรวจได้เสนอแนะให้ภาครัฐเร่งใช้นโยบายการคลัง โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนให้มีกำลังซื้อ โดยส่วนใหญ่กว่า 60% เสนอให้ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาช่วยเหลือผู้ว่างงานและกระตุ้นการบริโภคผ่านโครงการช้อปช่วยชาติ ฯลฯ ขณะที่ 25% ให้เร่งโครงการลงทุนภาครัฐ และออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อกระตุ้นการจ้างงานช่วยเหลือภาคธุรกิจ 25%”
ด้านนโยบายดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ 81% มองว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ระดับเดิม 0.5% และ 19% มองว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นมากสุดคือกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของตลาดที่นักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการลงมาอยู่ที่ 57.6 บาท จากก่อนหน้าอยู่ที่ 65.44 บาท ขณะที่ประเมินจุดสูงสุดของดัชนีหุ้นไทยช่วง ก.ค.ถึงสิ้นปี 63 เฉลี่ย 1,347 จุด ส่วนดัชนีต่ำสุดและสูงสุดอยู่ที่ 1,301-1,400 จุด.