เงินหยวนดิจิทัลสยายปีก

ในขณะที่เศรษฐกิจบ้านเรายังโงหัวไม่ขึ้น ซ้ำยังหาคนมาเป็นขุนคลังคนใหม่ไม่ได้ ผมว่าเราแวะไปดูความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจีนที่เติบโตแบบไม่สะทกสะท้านพิษโควิดกันดีกว่า แม้จีนประกาศปีนี้ไม่สนใจตัวเลขจีพีดี ขอเน้นตัวเลขการจ้างงานเป็นหลัก แต่จีดีพีไตรมาสที่ 2 ของจีนก็ขยายตัวถึง 3.2% สวนทางกับประเทศอื่นทั่วโลกที่ติดลบมโหฬาร

นักวิเคราะห์หลายคนมองตรงกันว่า วิกฤติโควิดไม่เพียงทำอะไรจีนไม่ได้ แถมยังเป็นตัวเร่งให้จีนเติบโตแข็งแกร่งเร็วขึ้นด้วย เพราะคนจีนมีความรักชาติสูง รวมพลังสู้กับโควิดอย่างไม่ย่อท้อ และจีนมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอยู่ก่อนแล้ว แม้อยู่ในช่วงล็อกดาวน์ก็ยังค้าขายดำเนินเศรษฐกิจต่อไปได้

ผมเคยแลกเปลี่ยนความเห็นกับ ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น กูรูเรื่องจีน และ ผู้เขียนหนังสือ “The Rise of China จีนคิดใหญ่ มองไกล” ทำให้เห็นมุมมอง กลยุทธ์ และศักยภาพของจีนได้กว้างขึ้น การที่จีนผงาดขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ไม่เพียงแค่มี ผู้นำที่ฉลาดเข้มแข็ง แต่กุญแจสำคัญที่ ดร.อักษรศรีย้ำอยู่เสมอคือ จีนดิสรัปตัวเองตลอดเวลา

ทุกวันนี้จีนเกาะติดเมกะเทรนด์ 1.การใช้ชีวิตวิถีคนเมือง 2.ชีวิตในโลกดิจิทัล 3.การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย 4.เศรษฐกิจสีเขียว 5.ใช้พลังหญิงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 6.ระบบขนส่งความเร็วสูงและโลจิสติกส์

ที่น่าจับตาอย่างใกล้ชิดอีกอย่างคือ เงินหยวนดิจิทัล Digital Yuan ชื่อทางการเรียกว่า Digital Currency Electronic Payment (DCEP) ซึ่งจีนเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้เงินดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลเอง เริ่มทดลองใช้เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ในเมืองซูโจว เสิ่นเจิ้น เฉิงตู และสงอัน 4 เมืองนี้มีประชากรรวมกัน 41 ล้านคน และเมื่อเดือนที่แล้วได้ขยายพื้นที่ทดลองไปอีก 28 เมือง อาทิ ปักกิ่ง เทียนจิน เหอเป่ย มาเก๊า ฮ่องกง ฯลฯ ครอบคลุมผู้ใช้ราว 400 ล้านคน หรือเกือบ 30% ของประชากรจีน

คุณลักษณะและจุดเด่นของเงินหยวนดิจิทัลคือ

1.เป็นเงินที่ออกโดยธนาคารกลางจีน มีความมั่นคงปลอดภัย มีมูลค่าแน่นอน มีทุนสำรองหนุนค่าเงินเช่นเดียวกับเงินหยวนกระดาษ ต่างจาก Cryptocurrency ทั่วไปที่ออกโดยเอกชนซึ่งมีการเก็งกำไร

2.ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

3.ใช้สะดวกผ่าน Digital Wallet ในสมาร์ทโฟน และแม้ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็โอนเงินได้ ผ่านระบบสื่อสารไร้สายด้วยคลื่นความถี่ในระยะใกล้ (NFC) แค่เอาสมาร์ทโฟนมาสัมผัสกันก็โอนได้แล้ว

4.ไม่ต้องเปิดเผยชื่อผู้ใช้ รักษาความลับทางการค้าได้ ผู้ที่มีอำนาจเข้าถึงข้อมูลมีเพียงธนาคารกลางจีน

จีนมี ตลาดผู้บริโภค ใหญ่ที่สุดในโลก และมี ตลาดออนไลน์ ใหญ่ที่สุดในโลก ประชากรเน็ตมีมากกว่า 900 ล้านคน ในจำนวนนี้มีกว่า 550 ล้านคนที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ พลังของผู้บริโภคจีนจะช่วยให้เงินหยวนดิจิทัลแพร่หลายมากขึ้น และจีนตั้งเป้าทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัลให้สมบูรณ์เพื่อให้ทันต่อการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว 2020 ที่กรุงปักกิ่ง ในเดือน ก.พ.

คาดการณ์กันว่าอีกไม่กี่ปีจีนจะมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 แทนสหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่จีนยังเอาชนะสหรัฐฯไม่ได้คือ การทำให้เงินหยวนจีนได้รับการยอมรับในระดับสากลเทียบเท่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม คงต้องจับตาดูว่าการที่จีนกระโดดไปใช้เงินหยวนดิจิทัลจะเป็นทางลัดให้ เงินหยวนดิจิทัลเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก ได้สำเร็จหรือไม่

ผู้ที่ติดต่อสื่อสารทำการค้าขายกับจีนคงต้องดูลู่ทางเตรียมความพร้อมไว้นะครับ เพราะตอนนี้จีนส่งผลกระทบกับเราอย่างมาก ผมขอยกข้อคิดของ ดร.อักษรศรีให้ “มองอนาคตแปลงจีนเป็นโอกาส” มาฝากไว้ครับ

1.เรียนรู้เทคโนโลยีจีน ร่วมเส้นทางสายไหมยุคดิจิทัล

2.สร้างความหลากหลาย ลดการผูกโยงเศรษฐกิจกับจีนมากเกินไป

3.ปรับตัวขนานใหญ่เพื่อให้รอด อย่าทำตัวเป็นกบต้ม ต้องตื่นตัวออกจาก comfort zone แบบเดิมๆ.

ลมกรด