นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เว็บไซต์ U.S.News & World Report ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับประเทศที่เหมาะในการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลกประจำปี 2563 (Best Countries to Start a Business 2020) ซึ่งประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นประเทศที่เหมาะสมในการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 2 U.S.News ได้จัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศที่เหมาะในการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลกเมื่อปี 62 มาแล้ว โดยสำรวจจากการสอบถามผู้บริหารในวงการธุรกิจ 6,000 คนทั่วโลก พิจารณาจากสิ่งแวดล้อมการทำธุรกิจ 5 ด้าน คือ 1.การบริหารจัดการมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง (Affordable) 2.ระบบราชการที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ (Bureaucratic) 3.ต้นทุนการผลิตต่ำ (Cheap Manufacturing Costs) 4.การติดต่อการค้ากับต่างประเทศ (Connected to the Rest of the World) และ 5.ความสามารถการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย (Easy Access to Capital)
การจัดอันดับข้างต้นสะท้อนถึงการให้บริการภาครัฐที่พัฒนาขึ้น และเริ่มต้นให้การทำธุรกิจที่มีความสะดวก รวดเร็ว สอดรับกับบริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นเจ้าภาพหลัก (Starting a Business) ที่ธนาคารโลกใช้เป็นข้อมูลการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจจากสมาชิก 190 ประเทศทั่วโลกเพื่อจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business ในทุกๆปี
โดยรายงาน Doing Business 20 20 ไทยอยู่ในอันดับรวมที่ 21 และอันดับที่ 47 ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งมี 5 ขั้นตอน ใช้ระยะเวลา 6 วัน จาก การจองชื่อบริษัท ชำระเงินทุนเข้าธนาคาร จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และขึ้นทะเบียนลูกจ้าง
“ปีนี้กรมจะพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการเริ่มต้นธุรกิจดียิ่งขึ้น ลดระยะเวลาและขั้นตอนการบริการให้น้อยลงอีก โดยได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กรมสรรพากร และสำนักงานประกันสังคม รวมทั้ง นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) มาช่วยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้อันดับของการเริ่มต้นธุรกิจดีขึ้นกว่าปีนี้ เป็นการส่งเสริมบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการเริ่มต้นธุรกิจ ผลักดันให้ไทยเป็นเป้าหมายสำคัญที่นักลงทุนต่างชาติเดินทางจะเข้ามาประกอบธุรกิจเพิ่มมากขึ้น”.