จี้ขนส่งทางบกเร่งแผน เรียกรถผ่านแอปฯ ตัดแต้มใบขับขี่ให้ทันใช้สิ้นปี 63

ศักดิ์สยาม จี้ขนส่งทางบก "เรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน-ตัดแต้มใบขับขี่" ต้องสำเร็จใช้ได้ภายในสิ้นปี 63 นี้ หากไม่เกิด ไม่การันตีตำแหน่งอธิบดีกรมการขนส่งทางบก จะยังได้ทำงานต่อหรือเปล่า

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงนโยบายการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการรถโดยสารสาธารณะเรียกผ่านแอปพลิเคชัน ว่า นโยบายของกระทรวงคมนาคมชัดเจนว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรมและมีผลบังคับใช้ได้ภายในปี 63 นี้

เช่นเดียวกับนโยบายการตัดคะแนนจากการขับขี่รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ บนท้องถนนที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งในส่วนนี้กรมการขนส่งทางบกจะต้องมีการดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในเรื่องของของการแก้ไขกฎหมายและให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว

ทั้งนี้ ในส่วนของการตัดแต้มคะแนนในใบขับขี่หากทำผิดกฎจาจรนั้น ในส่วนนี้กรมการขนส่งทางบกต้องมีการประสานกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกำหนดกรอบ คะแนน และความผิดที่จะตัดแต้ม อยู่ะหว่างการดำเนินการเบื้องต้น

โดยการตัดแต้ม หากผู้ขับขี่ถูกตัดแต้มครบ 100 คะแนน จะถูกพักใบอนุญาตขับขี่ 1 ปี หลังจากนั้นถึงจะกลับมาสอบใบขับขี่ใหม่ แต่ถ้าถูกหักแต้มคะแนนครั้งที่ 2 จนครบหมด 100 คะแนน ผู้ครอบครองใบขับขี่จะถูกยึดใบขับขี่ทันที

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กรมการขนส่งทางบกจะเรียกผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพ ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี มาทดสอบสมรรถภาพใหม่นั้น ในเรื่องนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดทั้งเรื่องการตัดแต้ม การสอบผู้ถือใบขับขี่ใหม่ ซึ่งเรื่องนี้กรมการขนส่งทางบก จะนำมาตรฐานจากทั่วโลกมาปรับให้เข้ากับไทย ซึ่งตนมองว่าการเกิดอุบัติเหตุ อายุไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญว่าจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ระบุว่า การเกิดอุบัติเหตุเกิดจากความพร้อมของคนขับขี่มากกว่า ซึ่งได้แบ่งออกเป็น 70% หากดื่มสุราก็จะเกิดอุบัติเหตุมากสุด ส่วนอีก 27% เกิดจากความพร้อมของรถ อีก 3% ที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เกิดจากมีการตัดหน้ากระชั้นชิด ยืนยันว่า หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามนโยบายก็ไม่มั่นใจว่าท่านอธิบดีกรมการขนส่งทางบก จะได้อยู่ทำงานต่อหรือเปล่า

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ. เผยว่า ล่าสุด คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นว่า การนำรถดังกล่าวมาให้บริการผ่านแอปฯ จะต้องไปแก้กฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาตามขั้นตอน

นอกจากนี้ เรายังอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด เพื่อกำหนดให้รถส่วนบุคคลที่จะนำมาให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน เป็นกลุ่มรถประเภทใหม่ รวมไปถึงใบอนุญาตขับขี่ด้วย

ขณะเดียวกัน ในระหว่างนี้ขนส่งทางบกจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชันกลาง นำมาใช้กับรถแท็กซี่สาธารณะในระบบที่ในปัจจุบันมีอยู่กว่า 90,000 คัน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในช่วงที่การระบาดโควิด-19 ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการลดลง ขณะเดียวกัน การดำเนินการดังกล่าว ยังเป็นไปตามข้อเรียกร้องของผู้ขับรถแท็กซี่ ที่เสนอให้ยกเลิก Taxi OK รวมถึงการติดตั้ง GPS ที่จะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ด้วย