ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือแจ้งให้ทุกหน่วยงานได้รับทราบ และเตรียมความพร้อมในการปรับปรุงแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในการรองรับชีวิตวิถีใหม่ หรือนิว นอร์มอล รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบ ให้ดำเนินการเรื่องนี้ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2560 กำหนดให้มีการทบทวนแผนแม่บท และยุทธศาสตร์ชาติทุก 5 ปี หรือในกรณีสถานการณ์ของโลก หรือประเทศเปลี่ยนแปลงไปจนไม่สามารถดำเนินการตามเป้าหมายได้ โดยในเบื้องต้นพบว่า แนวทางการพัฒนาของแผนแม่บท ส่วนใหญ่มีความสอดคล้องและครอบคลุมแล้ว แต่อาจมีความจำเป็นต้องพิจารณาแนวทางการพัฒนาเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกมิติ เช่น ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ยุคใหม่ การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต เศรษฐกิจฐานราก การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในการทำงานระยะต่อไป สศช.จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำโครงการสำคัญประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเจ้าภาพขับเคลื่อนประเด็นแผนแม่บท หน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนเป้าหมายของแผนแม่บททั้ง 3 ระดับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ เพื่อให้หน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และหน่วยงานต่างๆ สามารถจัดทำโครงการที่ทำให้เกิดการบรรลุเป้าหมายของแผนแม่บทได้ รวมถึงจะร่วมมือกับทุกหน่วยงานทำโครงการสำคัญ เพื่อจัดทำเป็นคำของบประมาณประจำปี 2565 ซึ่งสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติด้วย
อย่างไรก็ตาม สศช.และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศจะปรับปรุงแผนปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับมติ ครม. โดยได้จัดประชุมร่วมกับประธานกรรมการปฏิรูปทุกคณะ มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณากรอบการทำงานของทุกคณะร่วมกัน จากนั้นจึงจัดทำเป็นร่างแผนปฏิรูปประเทศฉบับปรับปรุง เพื่อเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเห็นชอบภายในเดือน พ.ย.นี้