นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2563 นี้ บริษัทยังมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ล่าสุดได้รุกพัฒนาแบรนด์อณาสิริ ที่เป็นแบรนด์มิกซ์โปรดักส์ต่อเนื่อง ที่รวมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมไว้ในโครงการเดียว ในระดับราคา 2-6 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการแนวราบ 10 โครงการ มูลค่ารวม 11,700 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เปิดภายใต้แบรนด์อณาสิริ 5 โครงการ มูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าก้าวสู่ผู้นำตลาดบ้านแนวราบ โดยเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มบ้านเดี่ยว รวมถึงติด 1 ใน 3 ของกลุ่มทาวน์โฮม ภายในปี 2564
นอกจากนี้สำหรับผลการดำเนินงาน 7 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.) บริษัททำยอดขายรวมได้ 24,000 ล้านบาท หรือ 70% จากเป้าหมายรวมที่ 35,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียม 8,600 ล้านบาท และแนวราบ 15,400 ล้านบาท หรือ 64% ของเป้ายอดขายรวม โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายแนวราบปีนี้ที่ 19,000 ล้านบาท
“หนึ่งในกลยุทธ์ที่มีส่วนช่วยผลักดันยอดขายของบริษัท คือการวางแผนตลาดที่จูงใจ โดยทีเด็ดของแสนสิริคือ โปรโมชันผ่อนให้ 24 เดือน ที่ตอนแรกโปรฯจะสิ้นสุดในไตรมาส 2 แต่ตอนนี้ได้ขยายไปสิ้นสุดที่ไตรมาส 3 แล้ว” นายอาณัติ กล่าว
ด้านบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ ก็ได้เผยผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) โดยมีรายได้รวมจำนวน 8,308 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 830 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อนเช่นกัน เป็นผลจากการเปิดตัวโครงการครอบคลุมทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด ทั้งนี้บริษัทได้ยอมรับว่าสถานการณ์โควิด-19 กระทบกับการรับรู้รายได้ของบริษัท เนื่องจากลูกค้าพิจารณานานขึ้น แต่บริษัทยังคงมั่นใจจะสามารถรับรู้รายได้ในระดับที่ประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์โควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจอสังหาริมทรัพย์แนวราบต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทได้เดินหน้าเปิดโครงการ และเร่งทำโปรโมชันส่งเสริมการขายต่อเนื่อง อาทิ อยู่ฟรี 3 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างเร่งสร้างรายได้ ที่เห็นได้ชัดคือกลยุทธ์จัดหนักจัดเต็มด้านโปรโมชัน เพื่อหวังระบายสต๊อกที่มีอยู่ในมือ แม้กำไรจะลดลงแต่ก็ดีกว่าขายไม่ได้.