ศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำร้อง "คดีค่าโง่โฮปเวลล์" รฟท.ของหารือก่อนมูฟออน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำร้อง "คดีค่าโง่โฮปเวลล์" รฟท.ของหารือก่อนมูฟออน

Date Time: 22 ก.ค. 2563 17:58 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • ศาลปกครองสูงสุด ยืนตามศาลปกครองชั้นต้น ไม่รับพิจารณาคำร้องให้รื้อคดี "ค่าโง่โฮปเวลล์" ใหม่ ชี้ ประเด็นคุณสมบัติโฮปเวลล์ ภาครัฐต้องรู้อ้างไม่ได้ ด้านผู้ว่า รฟท.ขอหารือฝ่ายกฎหมายก่อนเดินหน้า

Latest


ศาลปกครองสูงสุด ยืนตามศาลปกครองชั้นต้น ไม่รับพิจารณาคำร้องให้รื้อคดี "ค่าโง่โฮปเวลล์" ใหม่ ชี้ ประเด็นคุณสมบัติโฮปเวลล์ ภาครัฐต้องรู้อ้างไม่ได้ ด้านผู้ว่า รฟท.ขอหารือฝ่ายกฎหมายก่อนเดินหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 ก.ค.63 ศาลปกครองสูงสุด นัดพร้อมทั้งผู้ร้องคดีและผู้ยื่นคัดค้าน ในคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ซึ่งมีกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้ร้องที่ 1 และ 2 และมีบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เป็นผู้ยื่นคัดค้าน โดยวันนี้ศาลได้นัดฟังคำสั่งตามที่ผู้ร้องได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อมีคำสั่งให้ศาลปกครองชั้นต้นที่เคยมีคำสั่งไม่รับพิจารณาคดี ให้รับพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง

โดยวันนี้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้นไม่รับคดีไว้พิจารณาใหม่เช่นเดียวกัน โดยศาลได้บรรยายประเด็นที่ผู้ยื่นคำร้อง ได้ยื่นต่อศาลขอให้ศาลปกครองชั้นต้นรับพิจารณาคดีใหม่ ทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องกรณีศาลเคยวินิจฉัยคดีไปก่อนหน้านี้ มีประเด็นที่พิจารณาข้อเท็จจริงผิดพลาด ประเด็นที่สามารถยื่นให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ หากมีพยานหลักฐานใหม่ในคดี รวมถึงกรณีที่มีการยื่นข้อมูลว่าบริษัท โฮปเวลล์ฯ มีคุณสมบัติขัดกฎหมายไทยในการเข้าประมูลงาน เนื่องจากตามข้อมูลที่ยื่นกับนายทะเบียน (กรมธุรกิจการค้า) การมีบุคคล หรือนิติบุคคลต่างชาติถือหุ้น มากกว่ากฎหมายไทยกำหนด ทำให้โฮปเวลล์มีสถานะเป็นนิติบุคลต่างชาติ ที่ไม่สามารถเข้าประมูลงาน ได้

ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวศาลพิจารณาเห็นว่าคุณสมบัติโฮปเวลล์จะขัดกฎหมายไทยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่หน่วยงานภาครัฐ ขณะนั้นจะต้องพิจารณาและทราบก่อนลงนามในสัญญา รวมถึงคณะรัฐมนตรีขณะนั้นก็ต้องทราบข้อมูล เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เป็นผู้ลงนาม ก็นั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรี รวมทั้งยังมีหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานกฤษฎีกา สำนักงานอัยการที่ต้องตรวจร่างสัญญา ดังนั้น หากบริษัท โฮปเวลล์ฯ มีคุณสมบัติขัดต่อกฎหมายไทย ทุกหน่วยงานต้องทราบก่อนลงนามสัญญาและในการต่อสู้คดีที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐของไทยก็ไม่เคยหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาแสดงต่อศาล

ดังนั้น จากข้อมูลทั้งหมดจึงเป็นเหตุให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้นไม่รับคดีโฮปเวลล์ไว้พิจารณาใหม่เช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยวันนี้ ต้องติดตามประเด็นมูลค่าความเสียหายในคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ 22 เมษายน 2562 ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยให้ รฟท.จ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายให้แก่โฮปเวลล์ มูลค่ากว่า 11,800 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ภายใน 180 วัน หลังจากนั้นมีการประมวลมูลค่าความเสียหาย พบว่ามีประมาณ 25,000 ล้านบาท และกระทรวงคมนาคมได้มีการตั้งคณะทำงานเจรจากับโฮปเวลล์ก่อนจะตัดสินใจต่อสู้คดีใหม่ โดยมีการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองอีกครั้ง เพื่อต่อสู้คดีส่งผลให้ตัวเลขความเสียหายเฉพาะดอกเบี้ยในคดีนี้ ยังเดินต่อไป

ดังนั้นหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้นวันนี้ โดยไม่รับพิจารณาคดีใหม่ ต้องพิจารณาตัวเลขความเสียหายที่ต้องชดเชยว่าจะเป็นตัวเลขเท่าใด และต้องกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาระหว่าง รฟท.กับโฮปเวลล์อีกหรือไม่ หรือมีแนวทางต่อสู้ใด

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงกรณีศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยยืนคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ไม่รับพิจารณาคำร้องให้พิจารณาคดีค่าโง่โฮปเวลล์ใหม่ ของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า เรื่องดังกล่าวขณะนี้ได้รับรายงานแล้ว อยู่ระหว่างให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงคมนาคม และ รฟท. พิจารณาร่วมกันในเนื้อหาคำสั่งนี้อย่างถี่ถ้วนก่อน ว่าจะมีการดำเนินการไปในทิศทางใดต่อไป เพราะถือว่า รฟท. ได้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ