นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศในวันที่ 21 ก.ค.63 ว่า กอนช.ได้มีการวิเคราะห์ติดตามสภาพอากาศ และปริมาณฝน พบว่า ฝนจะเพิ่มขึ้นและกระจายตัวทั่วประเทศในช่วงวันที่ 21-22 ก.ค.63 และจะเริ่มลดลงในวันที่ 23-24 ก.ค.63 ก่อนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำ ลำน้ำ แหล่งน้ำต่างๆ รวมถึงเขื่อนที่เริ่มมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เพิ่มขึ้น โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและตอนล่าง ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นโดยลำดับ
ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์น้ำ และการเร่งเก็บกักน้ำต้นทุนให้มากที่สุด กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คณะทำงานภายใต้ กอนช.ได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ในช่วงวันที่ 22-28 ก.ค.63 ลงวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากอัตราเฉลี่ยวันละ 5 ล้าน ลบ.ม.เหลืออัตราเฉลี่ยวันละ 4 ล้าน ลบ.ม. ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ในช่วงวันที่ 22-26 ก.ค.63 ลงวันละ 2 ล้าน ลบ.ม. จากอัตราเฉลี่ยวันละ 14 ล้าน ลบ.ม.เหลืออัตราเฉลี่ยวันละ 12 ล้าน ลบ.ม.
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังคงมีแนวโน้มปริมาณฝนจะตกในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและตอนล่าง ทำให้มีปริมาณน้ำท่าเพิ่มขึ้น และระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาก็เพิ่มขึ้นด้วย จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ราบเชิงเขา และพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ส่วนเขื่อนป่าสักฯ จ.ลพบุรี ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯแล้ว 0.16 ล้าน ลบ.ม. และคาดว่าในวันที่ 22-24 ก.ค.63 จะมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ อีกประมาณ 1 ล้าน ลบ.ม. แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ฝนต่อเนื่อง.