เศรษฐกิจไทยแย่ที่สุดในเอเชีย?

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เศรษฐกิจไทยแย่ที่สุดในเอเชีย?

Date Time: 9 ก.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ลงบทวิเคราะห์ เศรษฐกิจไทยจะแย่ที่สุดในเอเชีย? ถือเป็นบทวิเคราะห์ที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง แม้บลูมเบิร์กจะมองว่าเศรษฐกิจไทยแย่ที่สุดในเอเชีย

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ลงบทวิเคราะห์ เศรษฐกิจไทยจะแย่ที่สุดในเอเชีย? ถือเป็นบทวิเคราะห์ที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง แม้บลูมเบิร์กจะมองว่าเศรษฐกิจไทยแย่ที่สุดในเอเชีย แต่ก็ยังดีกว่ามุมมองนักเศรษฐศาสตร์ไทยหลายสำนัก รวมทั้ง ธนาคารแห่งประเทศ ไทย แต่เมื่อเอาตัวเลขจีดีพีไปเทียบกับเพื่อนบ้านอาเซียนแล้ว เศรษฐกิจ ไทยอาการหนักกว่าเพื่อน ยิ่งไปเทียบกับ เวียดนาม เขาทิ้งเราไม่เห็นฝุ่นไปเลย

ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ท่านจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้อย่างไร ท่ามกลางแรงกดดันให้เอานักการเมืองอาชีพเข้ามาแทน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้สำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ถึงจีดีพี 6 ประเทศในอาเซียน ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม พบว่า ปี 2020 เศรษฐกิจไทย –6% สิงคโปร์ –5.7% มาเลเซีย –3.9% ฟิลิปปินส์ –3.5% อินโดนีเซีย –1% และ เวียดนาม +2.8% ส่วนจีดีพีคาดการณ์ปี 2021 ประเทศไทย +4% สิงคโปร์ +4.8% มาเลเซีย +5.7% ฟิลิปปินส์ +7.5% อินโดนีเซีย +5.0% และ เวียดนาม +8.1% ในภาพนี้จะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยปี 2020 ติดลบมากกว่าเพื่อน และปี 2021 ก็เติบโตน้อยกว่าเพื่อน สู้เพื่อนบ้านอาเซียนไม่ได้เลย

ตัวเลขอีกตัวที่ผมขอฝาก นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯไว้ตรงนี้คือ มุมมองจีดีพีไทยปี 2020 ของธนาคารไทย กับ ธนาคารต่างประเทศ ที่มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ทั้งที่ใช้แหล่งข้อมูลไม่แตกต่างกัน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยามองว่า จีดีพีไทยปีนี้ –10.3% ธนาคารกรุงเทพ –9.7% ธนาคารแห่งประเทศไทย –8.1% ธนาคารไทยพาณิชย์ –7.5% แต่ธนาคารต่างประเทศ เช่น ธนาคารเอชเอสบีซี มองว่า –8.2% ไอเอ็มเอฟ –7.7% สำนักข่าวบลูมเบิร์ก –6.5% ธนาคารเมย์แบงก์ –5.5% ธนาคารสแตนดาร์ด-ชาร์เตอร์ด –5.0% แบงก์ต่างชาติมองจีดีพีไทยดีกว่าที่แบงก์ไทยมอง ซึ่งเป็นตัวเลขที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก

ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับกระทบหนักที่สุดก็คือ ภาคการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป 100 เปอร์เซ็นต์ ปี 2562 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.8 ล้านคน แต่ ปี 2563 บลูกเบิร์กคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาแค่ 8 ล้านคน หายไปถึง 31.8 ล้านคน ปีหน้า 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา 16.3 ล้านคน น้อยกว่าปี 2562 ถึง 23.6 ล้านคน ปัญหานักท่องเที่ยวอย่างเดียวก็หืดขึ้นคอแล้ว กว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นกลับมาเหมือนเดิมได้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป อย่างที่วิเคราะห์กันแน่นอน

การฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศจึงไม่ใช่เรื่องง่าย นายกฯจะต้องระดมมืออาชีพทุกภาคส่วนมาให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของชาติ ยกเว้น “นักการเมืองอาชีพ” อย่าไปเอามาเด็ดขาด ให้ทำหน้าที่ในสภาฯก็พอแล้ว ยิ่งตำแหน่ง รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ยิ่งไม่ควรให้ นักการเมืองอาชีพ เข้ามาเป็น ให้ดูตัวอย่างการแก้ปัญหาหนี้สินของการบินไทย แม้จะมีขนาดเล็กกว่าเศรษฐกิจประเทศหลายร้อยเท่า รัฐบาลยังต้องใช้มืออาชีพอย่าง คุณชาญศิลป์ ตรีนุชกร อดีตซีอีโอ ปตท.มาทำงาน

มีข่าวว่าพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล จะเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจเต็มคณะ เพื่อ ติดตามภาวะเศรษฐกิจ วิกฤติหนี้ของเอสเอ็มอี รวมทั้งการขอให้สถาบันการเงินขยายเวลาพักชำระหนี้ไปอีก 2 ปี หลังครบกำหนดพักชำระหนี้ 6 เดือนในเดือนกันยายนนี้ เรื่องนี้ผมคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ ครม.เศรษฐกิจ ต้องคิดให้รอบคอบ อย่าพักชำระหนี้แบบเหวี่ยงแห เดี๋ยวจะสร้างปัญหาเพิ่ม วิกฤติต้มยำกุ้งมีตัวอย่างมาแล้ว

เศรษฐกิจไทยจะแย่ที่สุดในเอเชียหรือไม่? ถือเป็น ตัวเลขชี้วัดฝีมือบริหารประเทศ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะไปต่ออย่างสวยงามหรือไม่สวยงาม?

“ลม เปลี่ยนทิศ”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ