“สมคิด” เผย คนตกงานกลับถิ่นฐานถึง 2 ล้านคน หลังพิษโควิด-19 ทำบริษัทจ่อปิดตัวเพียบในเดือน ก.ค.นี้ พร้อมสั่ง ธ.ก.ส.ปล่อยเงินกู้ดอกต่ำ 0.01% สร้างหัวขบวนเกษตรกร ขณะที่ ธ.ก.ส.ออกโครงการเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทย อัดฉีดระบบเศรษฐกิจกว่า 314,000 ล้านบาท
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานแถลงนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทยและโครงการ New Gen Hug บ้านเกิด ที่จัดโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ณ โรงแรม ว่า การแพร่ระบาดทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของช่วงไตรมาส 1 หยุดชะงักไป โจทย์ต่อไปที่รัฐบาลต้องดำเนินการคือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง โดยรัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ นำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยเข้มแข็งจากภายใน
ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค.นี้ ภาคธุรกิจจะยังได้รับผลกระทบ จะเริ่มทยอยปิดตัว ประกอบกับการส่งออกยังไม่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาเที่ยวในไทยไม่ได้ จะทำให้มีแรงงานตกงานประมาณ 2 ล้านราย ต้องเดินทางกลับถิ่นฐาน รัฐบาลจึงมีแนวคิดให้กระทรวง หน่วยงานต่างๆ เสนอโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเข้ามา เพื่อให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการต่างๆ ก่อนอนุมัติใช้จ่ายเงินกู้ ในส่วนของงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท โดยโครงการที่ผ่านการพิจารณาจะต้องเริ่มดำเนินการภายในเดือน มิ.ย.-ก.ค.2563
นายสมคิด กล่าวว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส.กำลังดำเนินการโครงการเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทย เน้นให้เกษตรกรต้องรวมกลุ่มเพื่อให้เข้มแข็ง อาทิ สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน เป็นต้น เพื่อพัฒนาเป็นผู้ประกอบการ ดูแลทั้งด้านการผลิตและตลาดโดยร่วมมือกับสถานศึกษา หน่วยงานอื่นๆ ในการพัฒนา ไม่ใช่เกษตรกรแบบเก่า
ต้องสร้างหัวขบวนเกษตรกรเพิ่ม เพื่อเข้ามาพัฒนาภาคการเกษตรแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิต จนถึงการจัดจำหน่าย เนื่องจากในปัจจุบันมีหัวขบวนเกษตรกรเพียง 10,000-20,000 รายเท่านั้น “จะให้ ธ.ก.ส.ช่วยเหลือโดยการปล่อยเงินกู้และคิดดอกเบี้ยเพียง 0.01% ต่อปี ให้กับผู้ที่อาสาจะเป็นเกษตรกรหัวขบวน เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนในการพัฒนาภาคการเกษตร รวมถึงให้ ธ.ก.ส.ไปดูว่าจะจัดตั้งกองทุนสมาร์ทฟาร์มเมอร์ (เกษตรกรรุ่นใหม่) เพื่อระดมทุนเกษตรกร ในลักษณะเดียวกับของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้หรือไม่”
ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า คาดว่าโครงการเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทย ของ ธ.ก.ส.จะทำให้มีเม็ดเงินเติมลงไปในระบบเศรษฐกิจอีกกว่า 314,395 ล้านบาท แบ่งเป็น เม็ดเงินจากสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ ธ.ก.ส.สนับสนุนประมาณ 260,000 ล้านบาท และงบประมาณที่รัฐบาลสนับสนุนโดยตรงอีกจำนวน 54,395 ล้านบาท
สำหรับโครงการเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทย มีทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการเสริมสร้างความมั่นคงระดับครัวเรือน (ตั้งหลัก) ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วงเงินงบประมาณ 170,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก 10,720 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาให้เกษตรกรจำนวน 300,000 ราย 2.โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งระดับชุมชน (ตั้งฐาน) วงเงินงบประมาณ 70,000 ล้านบาท โดยมีรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก 22,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน 16,000 แห่ง นำไปลงทุนพื้นฐานด้านการเกษตร 3.โครงการเสริมสร้างความยั่งยืนของเศรษฐกิจฐานราก (ตั้งมั่น) วงเงินงบประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยมีงบสนับสนุนจากรัฐอีก 21,675 ล้านบาท เพื่อให้สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการจำนวน 7,255 แห่ง เป็นหัวขบวนในการรวบรวมผลผลิต การแปรรูปผลผลิต การเชื่อมโยงการตลาด โดยให้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง.