นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมร่วมกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอทำโครงการพัฒนาสินค้าผ้าไทยสู่ตลาดโลกด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และไลฟ์สไตล์ของไทย โดยการมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ในการต่อยอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ปราศจากของเสียและมลพิษตลอดทั้งกระบวนการผลิต และมีรูปแบบการค้าที่ทันสมัยตรงกับความต้องการของตลาดโลกผสมผสานกับเอกลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ พร้อมกับโอกาสการขยายธุรกิจใหม่โดยการสร้างการค้าแบบยั่งยืน เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม และการคุ้มครองผู้บริโภค
โดยในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปี 63 ไทยส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 2,032.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 10.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นส่งออกกลุ่มสิ่งทอ 1,280.4 ล้านเหรียญลดลง13.4% และกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม 752.1 ล้านเหรียญ ลดลง 5.8%
ด้านชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า โครงการนี้มีแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยการเลือกใช้วัสดุและวัตถุดิบจากธรรมชาติ เป็นกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่/ รักษาสิ่งแวดล้อม, ใช้กระบวนการผลิตและพัฒนาสินค้าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ที่เกิดผลกระทบต่อการผลิตน้อยสุด, การจัดการของเสียให้เป็นศูนย์ รวมทั้งการรักษาประสิทธิภาพของระบบ ผ่านการออกแบบเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบ, การผลิตและพัฒนาสินค้าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยใช้ท้องถิ่นเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อสร้างการจ้างงานและสร้างรายได้ในชุมชน
“สถาบันจะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มที่สูงขึ้น โดยตั้งเป้าหมายเบื้องต้นพัฒนาให้ได้ 30 ผลิตภัณฑ์ และจะนำไปทดสอบตลาดในงาน TEXWORLD PARIS ในเดือน ก.ย.63 เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนผู้บริโภคเป้าหมายและนำกลับมาปรับปรุง ก่อนออกวางจำหน่ายจริง และจัดเจรจาธุรกิจเพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ผู้ประกอบการ คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 10% สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท”.