กรมธนารักษ์ เตรียมพิจารณาลดค่าเช่าที่ดินเชิงพาณิชย์ให้ 50% ในเงื่อนไขเอกชนต้องไม่ลดพนักงาน หลังผ่อนปรนจ่ายค่าเช่าให้แล้ว 1 ปี พร้อมเตรียมเปิดประมูลที่ดิน 300 แปลง เดือนส.ค.นี้ พร้อมมอบอาหารกล่องทั่วประเทศเริ่ม 15 มิ.ย. 2563 ตั้งเป้า 100 ชุดต่อวันต่อจังหวัด
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2563 นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เช่าที่ราชพัสดุทุกรายที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กรมธนารักษ์ได้ออกมาตรการช่วยเหลือโดยการผ่อนปรนการเลื่อนระยะเวลาการจ่ายค่าเช่าหรือการลดค่าเช่าที่ราชพัสดุ จำนวน 1 ปี ตั้งแต่เดือนมี.ค.63-มี.ค.64 ซึ่งหลังจากมาตรการนี้เริ่มได้ไม่นาน กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและภาคเอกชนหลายราย ได้ส่งหนังสือมาที่กรมธนารักษ์ ขอผ่อนชำระค่าเช่าหลังครบกำหนดเลื่อนจ่ายค่าเช่า 1 ปี หรือให้กรมฯ ลดค่าเช่าที่ดินถึง 50%
“ข้อเสนอเอกชนที่ขอลดค่าเช่าที่ดินมากถึง 50% นั้น คงต้องขอพิจารณาก่อน เพราะหากกรมฯ ลดให้จริง คงต้องตั้งเงื่อนไขไว้ว่า บริษัทเอกชนต่างๆ จะต้องรักษาการจ้างงานของพนักงานไว้ ไม่ลดพนักงาน ส่วนจะมีการเลื่อนเวลาระยะเวลาจ่ายค่าเช่าต่อไปอีกหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเช่นกัน”
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กรมมีรายได้จากค่าเช่าที่ราชพัสดุรวมประมาณ 8,000 ล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นรายได้จากการให้เช่าเชิงพาณิชย์ 75% และ 25% เป็นการให้เช่าเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย และจากการผ่อนปรนอัตราค่าเช่า จะทำให้ปีนี้กรมจัดเก็บรายได้ลดลง แต่ยังสามารถจัดเก็บได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ 8,700 ล้านบาท โดยคาดว่าจะจัดเก็บได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนรายได้ที่หายไปนั้น กรมธนารักษ์เตรียมจะนำพื้นที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ รวมทั้งที่ดินราชพัสดุที่ได้รับโอนจากการยึดของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นำมาเปิดประมูลเพื่อให้เอกชนเข้ามาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เช่น พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ พื้นที่จังหวัดหนองคาย และมุกดาหาร สนามกอลฟ์บางพระ จังหวัดชลบุรี ที่ดินแถวด่านศุลกากร สะเดา จังหวัดสงขลา ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น
สำหรับการเปิดประมูลที่ดินยึดมาได้นั้น กรมจะเริ่มประมูลเฟสแรกประมาณเดือนส.ค.นี้ จำนวนประมาณ 300 แปลง จากที่ดินทั้งหมด 500 แปลง มูลค่ารวมประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองหลายแห่ง อาทิ สุขุมวิท นนทบุรี สีลม เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อดำเนินตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการช่วยแบ่งเบาภาระผู้ที่ตกงาน และกลุ่มที่ขาดรายได้ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ให้มีอาหารทานจำนวน 1 มื้อ กรมธนารักษ์ได้ร่วมกับบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เตรียมจัดอาหารกล่องเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโควิด-19 ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 15 มิ.ย.2563 เป็นต้นไป ระยะเวลา 1 เดือน
“ได้ให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ ดำเนินการจ้างร้านค้าและร้านอาหารในชุมชน เพื่อทำข้าวกล่องแจกจ่ายคนในชุมชน ซึ่งเป็นการสร้างรายได้และเป็นการกระจายรายได้ให้ร้านค้าในท้องถิ่นอีกทางหนึ่งด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ 15 มิ.ย. 2563 นี้เป็นต้นไป คาดว่าจะใช้งบประมาณ 7.75 ล้านบาท โดยเบื้องต้นกำหนดอาหารกล่อง 100 ชุดต่อวันต่อจังหวัด”
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากรมได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง เช่น การมอบสิ่งของ อาทิ อาหารกลางวัน น้ำดื่ม และแอลกอฮอล์ 75% (สำหรับทำความสะอาด) ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.-15 พ.ค. 63 รวมทั้งสิ้น 27,675 ชุด ที่พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ การมอบข้าวสาร อาหารแห้ง ให้กับชุมชนที่เป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุ จำนวน 11 ชุมชน 1,733 ครัวเรือน และตั้งตู้ปันสุข ให้กับประชาชนจำนวน 6 แห่ง ได้แก่ บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ บริเวณหน้าโรงกษาปณ์ รังสิต บริเวณชุมชนผู้เช่าที่ราชพัสดุ เป็นต้น.