เจอล็อกดาวน์ ภาษีเหล้าบุหรี่ลดแน่

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า คาดว่ารายได้จากภาษีสรรพสามิตในปี 2563 ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.63 ที่มาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ เป็นต้น รวมถึงบุหรี่ และน้ำอัดลม การจัดเก็บภาษีต้องลดลงอย่างแน่นอน เพราะช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด รัฐบาลออกมาตรการห้ามขายเหล้า และเบียร์ รวมถึงยังมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน ทำให้คนไม่อยากออกจากบ้าน ส่วนรายได้จัดเก็บภาษีแต่ละประเภท จะลดลงเท่าไหร่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากกรมสรรพสามิต ขยายเวลายื่นแบบรายการเสียภาษีสรรพสามิตทุกประเภท และขยายเวลาการยื่นงบเดือนของสถานบริการ ถึงวันที่ 15 ก.ค.63 จากเดิมต้องจ่ายภาษีภายในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

“ผมมองว่าช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ยอดจัดเก็บภาษีจากสินค้าต่างๆ จะลดลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เหมือนกันหมด ส่วนการที่รัฐบาลคลายล็อกมาตรการ ให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ โดยให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านนั้น น่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่มาก”

นอกจากนี้กรมสรรพสามิตเตรียมเชิญกระทรวงสาธารณสุข และเกษตรกรที่ปลูกใบยาสูบ เข้ามาหารือเกี่ยวกับแนวทางการปลูกพืชทดแทนใบยาสูบ หลังจากกรมสรรพสามิต มีแผนปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ขึ้น 40% ในเดือน ต.ค.63 ซึ่งกระทบต่อผู้ปลูกใบยาสูบเพราะโควตาการรับซื้อใบยาสูบลดลง ส่วนแนวทางการเพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ทดแทนใบยาสูบ จะต้องหารือกับกระทรวงสาธารณสุขก่อนว่าสามารถทำได้หรือไม่ เมื่อปรับเปลี่ยนไปแล้วใครจะเป็นผู้รับซื้อผลผลิต โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการปลูกพืชทดแทน ก่อนการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ และสุดท้ายการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไร.