ททท.ขอกระตุ้นท่องเที่ยวหมื่นล้าน ผุด 2 แพ็กเกจ สำหรับตอบแทนบุคลากร ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับโควิด-19 และ "เที่ยวปันสุข" สำหรับคนทั่วไป 4 ล้านคน ลงทะเบียนรับสิทธิ์ซื้อ Voucher
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 มิ.ย.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมีการหารือกับ กระทรวงการคลัง เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมโรงแรมและที่พัก ให้สามารถพยุงการจ้างงาน และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.2563 จนกว่าเข้าสู่ ฤดูการท่องเที่ยวเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่า ต้องใช้เงินประมาณ 10,500-14,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว จะหารือคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ และเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 9 มิ.ย. ซึ่งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่รัฐบาลจะเร่งผลักดัน มีผลให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวและจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อชะลอการเลิกจ้างงาน จากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19
โดย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า เบื้องต้นจะผลักดันเงินเข้าสู่ระบบผ่าน 2 แพ็กเกจคือ 1.แพ็กเกจกำลังใจ เพื่อตอบแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแนวหน้า รับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคน สนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงาน (3 วัน 2 คืน) ผ่านบริษัทนำเที่ยวในประเทศ
แพ็กเกจนี้รัฐบาลจ่ายให้กลุ่ม รพ.สต. และ อสม. เที่ยวฟรี พักฟรีในโรงแรมและที่พักที่จดทะเบียนถูกต้องอัตรา 2,000 บาทต่อราย หรือใช้งบประมาณ 2,400 ล้านบาท กลุ่มนี้นอกจากที่พัก จะได้รับเงิน สามารถสร้างรายได้ให้กลุ่มบริษัทนำเที่ยวด้วย เพราะเงื่อนไขของแพ็กเกจกำลังใจต้องเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยว
2.แพ็กเกจเที่ยวปันสุข เป็นบัตรกำนัลดิจิทัล สำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ ต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัด สำหรับ ประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 4 ล้านคน เปิดลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ซื้อบัตรกำนัล (Voucher) สำหรับเป็นค่าห้องพัก
เมื่อประชาชน นำบัตรกำนัลดังกล่าวไปเช็กอินห้องพัก รัฐจะโอนเงินคืนให้กับประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้จ่ายในโรงแรม ห้องอาหาร สปา และร้านขายสินค้าที่ระลึก ที่เข้าร่วมโครงการ กลุ่มนี้อาจใช้เงินประมาณ 8,000-12,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.