อย่าลืมร้องทุกข์เราไม่ทิ้งกัน ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และอำเภอ ถึง 29 พ.ค.นี้

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อย่าลืมร้องทุกข์เราไม่ทิ้งกัน ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และอำเภอ ถึง 29 พ.ค.นี้

Date Time: 22 พ.ค. 2563 07:51 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • อย่าลืมร้องทุกข์เราไม่ทิ้งกัน ทำผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ โดยมีเจ้าหน้าที่คลังเป็นคนรับเรื่อง รวมถึงผ่านธนาคาร 3 แห่งของรัฐได้แก่ ออมสิน ธ.ก.ส. และกรุงไทยถึง 29 พ.ค.นี้

Latest


อย่าลืมร้องทุกข์เราไม่ทิ้งกัน ทำผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ โดยมีเจ้าหน้าที่คลังเป็นคนรับเรื่อง รวมถึงผ่านธนาคาร 3 แห่งของรัฐ ได้แก่ ออมสิน ธ.ก.ส. และกรุงไทยถึง 29 พ.ค.นี้


หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ในช่วงเดือน มี.ค.63 ที่ผ่านมา ทำให้หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบ โดยรัฐบาลได้ส่งมาตรการเยียวยาลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ นอกระบบประกันสังคม ที่ต้องหยุดงานชั่วคราว ซึ่งจะได้รับเงินสนับสนุนรายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน และจะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com

ล่าสุด เว็บไซต์เราไม่ทิ้งกันได้ปิดการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ไปแล้ว แต่ยังเปิดเว็บให้ตรวจสอบสถานะ, ยกเลิกการลงทะเบียน, เปลี่ยนแปลงข้อมูลการรับเงิน และยื่นข้อมูลเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้เพิ่มช่องทางร้องทุกข์เราไม่ทิ้งกันสำรหรับประชาชนที่มีปัญหาในการลงทะเบียน

โดยช่องทางที่เปิดรับเรื่องร้องทุกข์ ได้แก่ ณ สาขาของ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 18-29 พ.ค. 63 รวมถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ตั้งแต่บัดนี้-29 พ.ค. 63 โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคลังจังหวัด ร่วมให้ข้อมูล คำปรึกษา จำแนกประเด็นปัญหาต่างๆ แล้วรวบรวมนำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายสัปดาห์ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือต่อไป

สำหรับ คนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันนั้น นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า อยากให้ประชาชนรอมาตรการการช่วยเหลือในกลุ่มอื่นๆ ที่รัฐบาลจะออกมาเร็วๆ นี้ และคนไทย 66 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ควรจะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐทุกคน แต่ทั้งนี้การช่วยเหลืออาจไม่เท่ากัน เพราะผลกระทบเกิดขึ้นต่างกัน

นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังพบว่ากลุ่มที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทบทวนสิทธิ์ 2.4 แสนราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1 ของจำนวนผู้ที่เข้าสู่การคัดกรองตามหลักเกณฑ์ และยังอยู่ระหว่างดำเนินการ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้ขอทบทวนสิทธิ์ 8 หมื่นราย จะได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ เพื่อนัดหมายยืนยันตัวตน และตรวจสอบการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้

กลุ่มที่ 2 ประมาณ 1 แสนราย เป็นผู้ขอทบทวนสิทธิ์ ซึ่งเคยได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์แล้ว แต่ไม่สามารถนัดพบได้หรือที่อยู่จริงในปัจจุบันไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนขอทบทวนสิทธิ์ ทำให้ผู้พิทักษ์สิทธิ์ไม่สามารถเจอตัวได้

กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่ผู้พิทักษ์สิทธิ์พยายามติดต่อไปหาแล้วหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ จำนวน 6 หมื่นราย

โดยผู้ขอทบทวนสิทธิ์ในกลุ่มที่ 2 และ 3 กระทรวงการคลังจะมีการส่ง SMS แจ้งให้ทราบอีกครั้ง และให้ไปติดต่อที่สาขาธนาคารกรุงไทยที่สะดวกที่สุด เพื่อยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพ โดยนำบัตรประชาชนตัวจริงไปแสดง พร้อมหลักฐานการประกอบอาชีพได้จนถึงวันที่ 29 พ.ค.2563  


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ