นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการเลื่อนบังคับใช้บางมาตราใน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ออกไป 1 ปี เป็นวันที่ 27 พ.ค.2564 จากเดิมจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 พ.ค.63 นี้ ตามที่กระทรวงดีอีเอสเสนอ โดยสาเหตุที่ต้องเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไป เนื่องจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มสมาคมและภาคธุรกิจต่างๆได้ยื่นข้อร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี ถึงความไม่พร้อมในการดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทุกองค์กรได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภาคเอกชน
ทั้งนี้ การเลื่อนบังคับใช้กฎหมายออกไปนั้น ทำให้ผู้ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลพนักงาน คู่ค้า ทั้งในภาครัฐและเอกชน มีเวลาเตรียมความพร้อมในการจัดทำหรือปรับปรุงกระบวนการทำงาน และระบบงานเพื่อรองรับมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้ในกฎหมายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งต้องใช้งบประมาณและบุคลากรจำนวนมากในการดำเนินการ
สำหรับมาตราที่ยังไม่บังคับใช้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการกำหนดบทลงโทษ หากหน่วยงานนั้นๆ ไม่จัดเก็บหรือบริหารข้อมูลตามกฎหมาย ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ โดยจะมีบทลงโทษทั้งอาญาและทางปกครอง เช่น จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับสูงสุดถึง 5 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนมาตราอื่นๆ ภาคเอกชนไม่ได้เป็นกังวล เนื่องจากได้เตรียมพร้อมไว้บางส่วนแล้ว
“ไม่อยากให้ประชาชนกังวลต่อกฎหมายฉบับนี้ ยืนยันว่ากฎหมายนี้คือ หลักเกณฑ์กลางเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ถูกละเมิดตามหลักสากล จึงไม่ใช่การไปล้วงข้อมูลของบุคคลใด และจากนี้ยังมีเวลาเตรียมพร้อมก่อนกฎหมายบางมาตราจะมีผลบังคับใช้ในอีก 1 ปีข้างหน้า”
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน 5 จี แห่งชาติแล้ว โดยมีนายกฯเป็นประธาน สำหรับคณะกรรมการ 5 จี นั้น จะช่วยให้การบริหารจัดการการขับเคลื่อน 5 จีทั้งระบบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของการต่อยอด การใช้ประโยชน์เทคโนโลยี 5 จี ภายหลังจากที่ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมได้ประมูลคลื่นความถี่และมีการลงทุนขยายโครงข่ายในพื้นที่ต่างๆ โดยการกำหนดทิศทางและนโยบายของคณะกรรมการจะไม่เกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่นความถี่ นอกจากนี้ยังจะให้การสนับสนุนการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หรือนำมาใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น.