“ธนกร” เผย คลังโอนเยียวยา 5,000 บาท เราไม่ทิ้งกัน ครบ 14 ล้านคนสัปดาห์นี้ เร่งตรวจสอบข้อมูลผู้ร้องทุกข์-ผู้ทบทวนสิทธิ์ เสร็จใน 17 พ.ค. จากนั้นช่วยกลุ่มตกหล่น ย้ำ ยังไม่มีการหารือลงทะเบียนรอบ 2
วันที่ 13 พ.ค. 2563 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้ามาตรการเยียวยา เราไม่ทิ้งกัน กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 5,000 บาท โดยล่าสุด มีผู้ที่ผ่านเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยาแล้ว 14.4 ล้านคน ซึ่งในสัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังจะจ่ายเงินเยียวยาให้ครบ 14 ล้านคน จากปัจจุบันจ่ายเงินไปแล้วเกิน 12 ล้านคน
สำหรับการทบทวนสิทธิ์ ที่ปิดรับทบทวนสิทธิ์เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา มียอดลงทะเบียนทบทวนสิทธิ์ทั้งหมด 6.5 ล้านคน และในจำนวนนี้ผ่านเกณฑ์แล้ว 4.5 ล้านคน ส่วนที่เหลือจะให้ผู้พิทักษ์สิทธิ์ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล นายอุตตม สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบข้อมูลให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันที่ 17 พ.ค. ซึ่งปัจจุบันจากที่ทีมผู้พิทักษ์สิทธิ์ลงพื้นที่ พบว่าผู้ยื่นทบทวนสิทธิ์ประมาณ 70,000-80,000 คน มีที่อยู่ปัจจุบันไม่เหมือนกับที่แจ้งในการลงทะเบียนทบทวนสิทธิ์ หรือเป็นคนละจังหวัดกัน ดังนั้น คนกลุ่มนี้กระทรวงการคลังจะหาวิธีการทบทวนสิทธิ์ให้ต่อไป
ขณะที่การเปิดรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนของกระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. - 12 พ.ค. 2563 มียอดผู้มายื่นร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น 15,000 คน โดยในจำนวนนี้แยกแยะปัญหาออกเป็นหมวดหมู่และแก้ไขปัญหาไปบ้างแล้ว ส่วนเรื่องใดที่เกี่ยวกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ให้ นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประสานไปที่ พม. แล้ว
ส่วนเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรทั่วประเทศนั้น เมื่อวันที่ 12 พ.ค. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการส่งข้อมูลให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งมีการตรวจสอบรายชื่อแล้ว จำนวน 8 ล้านคน ดังนั้นวันที่ 15 พ.ค. นี้ ธ.ก.ส. จะเริ่มจ่ายเงินเยียวยาทันที
นอกจากนี้ ในเรื่องการช่วยเหลือกลุ่มที่ตกหล่น ชายขอบ คนไร้บ้าน และคนสูงอายุนั้น จะดำเนินการหลังจากจบโครงการในวันที่ 17 พ.ค. และจะรีบหาทางช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ให้เร็วที่สุด ส่วนการลงทะเบียนรอบ 2 ยังไม่มีการหารือ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มีประชาชนมาร้องทุกข์จำนวนกว่า 2,000 คน และมีปัญหาเดิมๆ คือ ลงทะเบียนไม่สำเร็จ ซึ่งกลุ่มนี้มีประมาณ 1.7 ล้านคน และบัญชีไม่ตรงกับที่ลงทะเบียน ประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งขอแนะนำให้ผู้ลงทะเบียนเปิดบัญชีพร้อมเพย์ซึ่งจะได้รับเงินโอนเข้ารวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมบรรยากาศการเปิดโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์ 5,000 บาท ที่บริเวณลานจอดรถ กรมประชาสัมพันธ์ พบว่ายังมีประชาชนเดินทางมาอย่างหนาแน่น โดยช่วงเช้ามีประชาชนเดินทางมายื่นเรื่องร้องทุกข์ถึง 2,000 คนแล้ว ทั้งนี้ มีกรณีผู้มาร้องทุกข์ที่น่าสนใจ คือ หญิงสูงวัยประกอบอาชีพค้าขาย เดินทางมาร้องทุกข์เนื่องจากลูกสะใภ้ 2 คน ทะเลาะกันเรื่องลงทะเบียนเงิน 5,000 บาท โดยลูกสะใภ้คนหนึ่งกดสละสิทธิ์การลงทะเบียนของหญิงรายนี้ ทั้งที่หญิงสูงวัยลงทะเบียนผ่านและได้รับเงินจำนวน 2 เดือน (เม.ย. - พ.ค.) เป็นเงิน 10,000 บาทแล้ว จึงกลัวว่าจะไม่ได้รับเงินในเดือนถัดไป โดยเจ้าหน้าที่อธิบายว่าจะได้รับเงินจำนวน 5,000 บาทในเดือนถัดไปตามเดิมแม้จะมีการกดปุ่มยกเลิกสิทธิ์ในเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เนื่องจากหญิงสูงวัยเป็นผู้ที่ผ่านเกณฑ์ได้รับเงินทุกอย่าง และกรณีนี้เกิดจากเหตุทะเลาะวิวาทในครอบครัว ทางด้านหญิงสาวอีกรายหนึ่งประกอบอาชีพค้าขาย เข้ามาร้องทุกข์เนื่องจากลงทะเบียนไม่ผ่าน โดยระบบระบุว่าบัตรประชาชนมีปัญหา และแม้จะลงใหม่แต่ก็ยังลงไม่ได้ ซึ่งในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นเพราะหญิงสาวรายนี้มีการลงทะเบียนซ้ำหลายครั้ง ระบบจึงคัดชื่อออก ดังนั้น จึงต้องรอการช่วยเหลือหลังจากปิดโครงการแล้ว
(ภาพจากเฟซบุ๊ก Dr Thanakorn Wangboonkongchana ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ)