ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 30 เม.ย.นี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) จะประกาศผลการทบทวนสถานะประเทศคู่ค้าด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตามมาตรา 301 พิเศษ กฎหมายการค้าสหรัฐฯ โดยคาดว่าในปีนี้ไทยจะยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามอง (วอท์ช ลิสต์ หรือดับบลิวแอล) ต่อเนื่องอีก 1 ปี นับตั้งแต่ปี 2560 จากก่อนหน้านี้ ไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (ไพร์ออริตี้ วอท์ช ลิสต์ หรือพีดับบลิวแอล) มาตั้งแต่ปี 2550 เพราะละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯอย่างหนัก
สำหรับสาเหตุที่คาดว่า ไทยยังคงอยู่ในกลุ่มดับบลิวแอลต่อเนื่อง เป็นเพราะที่ผ่านมาไทยได้แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาหลายฉบับ เช่น แก้กฎหมายป้องกันการละเมิดผ่านอินเตอร์เน็ต, ปิดกั้นเว็บไซต์ที่ละเมิดภาพยนตร์ เพลง ซีรีส์ของต่างประเทศ, แก้กฎหมายป้องกันการลักลอบถ่ายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์, เข้าร่วมเป็นสมาชิกสนธิสัญญาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังได้ตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาระดับชาติ โดยมีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ และยกระดับเรื่องการป้องกันและปราบปรามการละเมิดเป็นวาระแห่งชาติ จนทำให้ปัจจุบันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ รวมถึงของเจ้าของสิทธิจากประเทศต่างๆในไทยลดลงมากอย่างเห็นได้ชัด