นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า การใช้น้ำมันเฉลี่ยต่อวัน ไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) พบว่าปริมาณการใช้รวมของกลุ่มเบนซิน ดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน (เจ็ต) น้ำมันก๊าดและก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) อยู่ที่ 150.56 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 เฉลี่ย 7.5% และมีการใช้ที่ปรับลดลงของน้ำมันทุกกลุ่ม เนื่องจากโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยต้องปิดประเทศ (Lock Down) ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันดิบไตรมาสแรก อยู่ที่ 928,923 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นมูลค่า 55,062 ล้านบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ กลุ่มน้ำมันเบนซินมีปริมาณการใช้ไตรมาสแรก เฉลี่ย 31.1 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2.3% แบ่งเป็น เบนซิน 0.80 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 21.8%, อี 20 มียอดใช้ 6.5 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.8% เนื่องจากมีราคาถูกกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.01 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 มีการใช้ 14 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.5% เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาใกล้เคียงกัน โดยมีส่วนต่าง 0.27 บาทต่อลิตร
ดังนั้น จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้น้ำมันชนิดที่มีค่าออกเทนสูงกว่า ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้เฉลี่ย 8.7 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 9.7% แก๊สโซฮอล์ อี 85 มีการใช้อยู่ที่ 1.1 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 11.4% กลุ่มดีเซล อยู่ที่ 67.6 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2.9% โดยบี 7 การใช้ 51.5 ล้านลิตร ต่อวัน ลดลง 22.2% บี 10 มีการใช้เฉลี่ย 6.4 ล้านลิตรต่อวัน (เริ่มมีการจำหน่ายปลายเดือน พ.ค. 2562) และบี 20 มีการใช้ 6.7 ล้านลิตรต่อวัน (เริ่มจำหน่ายเดือน ก.ค. 2561) โดยปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลดังกล่าวอยู่ในช่วงการดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐที่กำหนดให้บี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐานของประเทศไทย
“การใช้น้ำมันเจ็ตอยู่ที่ 17.7 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 17.4% เนื่องจากโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินที่ต้องหยุดบิน และการใช้แอลพีจีเฉลี่ยอยู่ที่ 16.0 ล้านกิโลกรัม (กก.) ต่อวัน ลดลง 11.7% โดยปริมาณการใช้ภาคขนส่งลดลงมากที่สุด อยู่ที่ 2.4 ล้าน กก.ต่อวัน ลดลง 18.8% รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมีการใช้อยู่ที่ 6.0 ล้าน กก.ต่อวัน ลดลง 17.9% ถัดมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีการใช้ 8 ล้าน กก.ต่อวัน ลดลง 3.1% ภาคครัวเรือนอยู่ที่ 5.7 ล้าน กก.ต่อวัน ลดลง 3%”.