นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมพิจารณาแผนฟื้นฟู และปฏิรูปธุรกิจ 2563-2567 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่าในการประชุมครั้งนี้ ยังไม่ได้มีการอนุมัติแผนฟื้นฟูฯที่การบินไทยนำมาเสนอกระทรวงคมนาคม โดยให้การบินไทยกลับไปทำข้อมูลรายละเอียด โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย ต้นทุน การบริหารจัดการ รวมถึงเรื่องการปรับแผนธุรกิจ ซึ่งการบินไทยก็ปรับตัว เริ่มดำเนินการไปแล้ว เช่น การหันไปรุกธุรกิจการขนส่งทางอากาศ (Cargo) ให้มากขึ้น แต่เรื่องนี้ยังติดที่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบเครื่องบินให้สอดคล้องกับการดำเนินการ ทั้งนี้ รายละเอียดของแผนฟื้นฟูของการบินไทยทั้งหมดได้ให้การบินไทยกลับไปทำตัวเลขรายละเอียดเพิ่มเติม คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ก่อนที่การบินไทยนำกลับมาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาอีกครั้ง
“ที่ประชุมยังเห็นว่าควรจะมีการปรับแผนไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพเช่น ครัวการบินไทย ที่สามารถนำอาหารที่ผลิตจากครัวการบินไทย จัดส่งเป็นดีลิเวอรี เจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ซึ่งแนวธุรกิจนี้จะสอดคล้องในช่วงการระบาดของโควิด-19 เพราะมีความต้องการของลูกค้า โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม นำไปหารือในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ ศบค.จะดำเนินการอย่างไร ในส่วนของอาหารของครัวการบินที่สามารถนำไปจำหน่ายให้แก่ประชาชน ทั้งคุณภาพ ราคาของอาหาร ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้”
นายศักดิ์สยามยังได้กล่าวถึงแผนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปีนี้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 หรือไม่ เพราะตามแผนเดิมรัฐวิสาหกิจหลายแห่งจะใช้รายได้และสภาพคล่องเป็นเงินลงทุน แต่ปัจจุบันรัฐวิสาหกิจเหล่านี้สูญเสียรายได้โดยฉับพลัน รายได้ลดลงอย่างรวดเร็ว เช่นธุรกิจการบิน สายการบินต้องหยุดบินชั่วคราว ส่งผลโดยตรงกับรายได้ ทั้งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด หรือ บวท.ซึ่งในเรื่องนี้จะรับฟังความจำเป็นของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งเพื่อดูแลต่อไป.