ธปท.รวมมาตรการความช่วยเหลือรายแบงก์ให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 แจงรายแบงก์ลดดอก-พักหนี้ เปลี่ยนประเภทสินเชื่อ ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบเร่งปรับโครงสร้างลดภาระหนี้ ส่วนลูกหนี้ลิสซิ่ง ให้รอซอฟต์โลนรัฐที่จะออกในมาตรการเยียวยาเฟส 3 จากนั้นจะมีมาตรการช่วยเหลือออกมาแน่
นางวิเรขา สันตะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท.ได้ออกมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างต่อเนื่องนั้น พบว่า เมื่อมาตรการมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา มีสถาบันการเงินได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้แล้วจำนวนหนึ่ง
โดยมาตรการช่วยเหลือลดภาระและปรับโครงสร้างหนี้ที่ออกมาแล้วนั้น ครอบคลุมสินเชื่อรายย่อย 6 ประเภท ประกอบด้วย สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเพื่อธุรกิจรายกลางและรายย่อย (เอสเอ็มอี) สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อและลิสซิ่ง และในช่วงที่ผ่านมา สถาบันการเงินแต่ละแห่งได้ออกมาตรการช่วยเหลือของธนาคารตนเองเพิ่มเติมด้วย ธปท. จึงได้รวบรวมมาตรการของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง เพื่อให้ลูกหนี้สามารถพิจารณาเพื่อไปติดต่อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (ตามตาราง) โดยลูกหนี้ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และลูกหนี้ที่ได้รับผลต่อเนื่องจากเศรษฐกิจสามารถพิจารณาเงื่อนไขผ่อนปรนที่แต่ละสถาบันการเงินให้ในเบื้องต้น และดำเนินการติดต่อกับธนาคารเจ้าหนี้
ขณะที่ในส่วนของบริษัทลิสซิ่ง หรือบริษัทให้สินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อ ซึ่งมีบริษัทจำนวนหนึ่งที่ยังไม่สามารถสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ พักหนี้หรือลดดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ได้ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นบริษัทให้สินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) นางวิเรขากล่าวว่า ในกรณีของบริษัทลิสซิ่ง ในมาตรการเยียวยาผลกระทบชุดที่ 3 ที่จะเข้าการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า จะมีการให้สินเชื่อวงเงินพิเศษในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนจากภาครัฐ หรือซอฟต์โลน ซึ่งเมื่อได้รับความช่วยเหลือดังกล่าวแล้ว ทางบริษัทลิสซิ่ง และ ธปท. เห็นร่วมกันที่จะมีการพิจารณาเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้โดยเร็วต่อไป.