"โควิด-19" สัมผัส "ธนบัตร" เสี่ยงติดแค่ไหน หนุนใช้ "กระเป๋าตังค์ผ่านแอปฯ มือถือ" แทน

แพทย์ไขข้อสงสัย การรับ-ส่ง ธนบัตร เสี่ยงติดโควิด-19 มากน้อยแค่ไหน ด้าน ทรูมันนี่ ผนึกกำลังร้านค้าชั้นนำ หนุนใช้ "กระเป๋าตังค์ผ่านแอปฯมือถือ" แทน ลดความเสี่ยงสัมผัสสิ่งของร่วมกัน

จากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา หรือโรคโควิด-19 ซึ่งยังคงระบาดอย่างต่อเนื่องในประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนได้ออกมารณรงค์ให้ทุกคน ห่างกันสักพัก หรือ Social Distancing เว้นระยะห่าง รวมถึงลดพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งการสังสรรค์ การออกไปในที่แออัด เพื่อให้เราปลอดภัยจากโรคโควิด-19

โดยรัฐบาลได้มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในการกำหนดมาตรการ แก้ปัญหา เฝ้าระวังและป้องกันไวรัสโคโรนา (โควิด-19) อย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเอง ก็ได้มีการประกาศปิดพื้นที่เสี่ยง เบื้องต้น ยาวถึงสิ้นเดือนเมษายน 2563 เพื่อตัดวงจรการสัมผัสกัน ทั้งผ่านตัวบุคคล สถานที่ หรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน

ก่อนหน้านี้มีการพูดถึง ธนบัตร หรือเหรียญ ที่ใช้จับจ่ายว่าหากเราสัมผัสเงินเหล่านั้น เราจะมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่ ซึ่งนายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เคยให้สัมภาษณ์ไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณีดังกล่าวว่า ในกรณีที่เราสัมผัสเงินก็ไม่ต่างจากการที่เราไปสัมผัสราวบันได หรือกดลิฟต์ แต่โอกาสติดเชื้อจากการสัมผัสเงินนั้นค่อนข้างน้อย เพราะเงินที่ถูกนำออกมาใช้จ่ายจะถูกความร้อนฆ่าตาย และในขณะเดียวกันโอกาสที่คนจะไอจาม แล้วมีเสมหะติดอยู่บนแบงก์หรือเหรียญนั้นถือว่าค่อนข้างยาก 

นอกเสียจากผู้ติดเชื้อจะไอ จาม โดยเอามือป้องปากตัวเอง จากนั้นก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบเงินขึ้นมา และส่งเงินนั้นให้กับคนอื่นๆ ในทันที หากเป็นลักษณะนี้ ผู้รับเงินมีโอกาสติดเชื้อแน่นอน ซึ่งระยะเวลาที่เชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 จะติดอยู่บนธนบัตร หรือเหรียญนั้น ไม่สามารถระบุเวลาที่แน่นอนได้ หากเสมหะหนา และอยู่ในอุณหภูมิไม่สูง เชื้อไวรัสก็จะอยู่ได้นานหลายวัน หรืออาจหลายเดือน แต่ถ้าเสมหะน้อย เชื้อไวรัสก็จะอยู่ได้ไม่นาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธนบัตรหรือเหรียญที่โดนความร้อน เชื้อไวรัสก็จะหายไปได้ภายในไม่กี่นาที หรือภายในไม่กี่วินาที

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 จะติดอยู่พื้นผิวธนบัตร หรือเหรียญ นานแค่ไหนก็ไม่มีใครอยากเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนา กันทั้งนั้น ดังนั้น การใช้ กระเป๋าตังค์ผ่านแอปฯมือถือ ช่วยในการจ่ายเงิน จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงอีกทางที่อยากจะแนะนำ

อย่าง บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เม้นต์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จับมือร้านค้าชั้นนำมากมาย อาทิ เซเว่น อีเลฟเว่น, แม็คโคร, ซีพีเฟรชมาร์ท, ทรูคอฟฟี่, เชสเตอร์, ร้านกาแฟมวลชน, ฟาร์มแฟคทอรี่, พอล, จังเกิ้ล คาเฟ่, อาราบิเทีย คาเฟ่ ฯลฯ ให้ ลูกค้าที่ใช้มือถือเครือข่ายไหนก็ได้สามารถจ่ายเงินผ่านอีวอลเล็ท แทนเงินสด ขั้นตอนง่ายๆ ปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก และยังสามารถลดความเสี่ยง จากการสัมผัสสิ่งของร่วมกันด้วย

ทั้งนี้ ร้านค้าเครือ ซีพีกรุ๊ป ยังเพิ่มมาตรการร้านสะอาดห่างไกลโควิด-19 รองรับบริการซื้อกลับบ้านและเดลิเวอรี่ โดยพนักงานที่ประกอบอาหาร และเครื่องดื่ม ที่หยิบจับสิ่งของ ต้องใส่หน้ากากอนามัย ติดตั้งเจลล้างมือ ทำความสะอาดบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อยด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 2 ชั่วโมง เป็นต้น

นอกจาก การใช้จ่าย ใช้แอปฯมือถือแล้ว ยังสามารถร่วมทำบุญได้ด้วย โดยทรูมันนี่ เปิดช่องทางรับบริจาค ผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ทภายใต้ โครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อสมทบทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ช่วยเหลือผู้ป่วย COVID-19 และช่วยเหลือด้านต่างๆ ในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

ทั้งนี้ สามารถสมัครกระเป๋าตังค์ผ่านแอปมือถือ ทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้ที่ https://tmn.app.link/SAHThairathDL 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://tmn.app.link/e/SAHThairathLP 

#ทรูมันนี่วอลเล็ทแทนเงินสดลดสัมผัส #TrueMoney #TrueMoneyWallet #ใช้ได้ทุกเบอร์ทุกค่าย