นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม กระทรวงพลังงาน เสนอให้โรงกลั่นน้ำมันลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นน้ำมันลง 50 สตางค์ต่อลิตร โดยพิจารณาว่าสามารถลดได้จากต้นทุน ค่าขนส่ง ค่าสำรองน้ำมันตามกฎหมาย ค่าปรับคุณภาพน้ำมันและค่าประกันภัยนั้น กลุ่มโรงกลั่นฯได้ชี้แจงในการประชุมร่วมกับคณะทำงาน ว่า พร้อมจะปรับลดราคาก็ต่อเมื่อกระทรวงพลังงานปรับลดมาตรฐานคุณภาพการผลิตน้ำมันของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศไทยลง เพื่อให้มีต้นทุนลดลงได้ เนื่องจากปัจจุบันนี้ประเทศไทยและสิงคโปร์จะใช้มาตรฐานยูโร 4 เช่นเดียวกัน แต่ในรายละเอียดของไทยกำหนดมาตรฐานน้ำมันที่สูงกว่าสิงคโปร์ ส่งผลให้ต้นทุนแพงกว่า เช่น ค่าเบนซีน, ความดันไอระเหย, อุณหภูมิการระเหยของน้ำมัน เป็นต้น
สำหรับราคาที่คณะทำงานฯนำมาพิจารณามานำเสนอให้ผู้ประกอบการโรงกลั่นรับทราบ ถือว่าเป็นราคาอ้างอิงออกเทน 91 หรือเอ็มโอบี 91 ไม่ได้ใช้เอ็มโอบี 95 ซึ่งเป็นน้ำมันที่ในทวีปเอเชีย ใช้เป็นราคาอ้างอิง ซึ่งเอ็มโอบี 91 มีการซื้อขายน้อยมาก เป็นราคาประเมินเท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง จึงเสนอให้กระทรวงพลังงานจัดตั้งคณะทำงานที่มีผู้เชี่ยวชาญมาพิจารณาปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน กำหนดสเปกน้ำมันให้เหมาะสมกับประเทศไทยว่า อะไรที่มีข้อกำหนดสูงเกินไป มีความจำเป็นจริงหรือไม่ และเมื่อเราจะส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพ สเปกของโรงกลั่นน้ำมันที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร เมื่อลดสเปกลงต้นทุนก็จะลดลง ส่งผลให้ราคาหน้าโรงกลั่นก็จะสามารถปรับลดลงได้.