นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.อยู่ระหว่างพิจารณาการจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ประจำปี 63 ว่าจะจัดงานขึ้นได้หรือไม่ โดยขอประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องไปก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้น ททท.และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีความพร้อมจัดงานขึ้นในบางพื้นที่ โดยหากสามารถจัดงานขึ้นมาได้ก็อาจลดขนาดลงมาเป็นงานส่งเสริมวัฒนธรรม และมีการรดน้ำดำหัวตามประเพณี โดยไม่จัดให้มีขนาดใหญ่เหมือนปีก่อนๆ “ตอนนี้นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกฝ่ายเฝ้ามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ ททท.เองยังไม่ได้เลื่อนงานเทศกาลสงกรานต์ออกไป โดยไม่ได้เน้นเรื่องการเล่นสาดน้ำ เพราะในช่วงนี้มีความสุ่มเสี่ยง ดังนั้น จึงต้องมาดูว่าสาระสำคัญของสงกรานต์ก็คือปีใหม่ไทย ส่วนใหญ่คนไทยเดินทางกลับภูมิลำเนาไปรดน้ำดำหัวพ่อ แม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ อีกทั้งปีนี้น้ำแล้ง การเล่นน้ำก็ทำได้จำกัดด้วย ดังนั้น ก็ไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้าคงได้ความชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร”
ด้านนายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า สัปดาห์หน้าภาคเอกชนจะนัดผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร มาหารือกันถึงสถานการณ์การจัดงานสงกรานต์ถนนข้าวสารว่าจะจัดขึ้นได้หรือไม่ แต่ตอนนี้เชื่อว่าคงไม่ได้จัดแน่นอน เนื่องจากการแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ดังนั้น การจัดกิจกรรมต่างๆ คงทำได้ยาก อีกทั้งทางเขตพระนคร เจ้าของพื้นที่อาจไม่อนุมัติให้จัดงาน แต่ร้านค้าต่างๆ บนถนนข้าวสารก็ยังสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ในร้านของตัวเองได้ตามปกติ
ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวในถนนข้าวสาร ปัจจุบันยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวอยู่บ้าง ดีกว่าหลายพื้นที่ โดยต่างชาติส่วนใหญ่ 70% เป็นยุโรปที่จองที่พักมาตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่นักท่องเที่ยวจากเอเชียได้รับผลกระทบสูงสุด ยอดพักหายไปจำนวนมาก และเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวยุโรปยกเลิกการจองห้องพักมาบ้างแล้ว เช่นเดียวกับยอดจองล่วงหน้าก็เริ่มหายไปแล้ว 50% ทำให้ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้น่าจะลดลงมากกว่าทุกปี “นักท่องเที่ยวต่างชาติในภาพรวมของถนนข้าวสารขณะนี้หายไป 40% และคาดว่าไตรมาส 2 ปีนี้ น่าจะปรับลดลงอีกมาก โดยเฉพาะชาวอิตาลีที่เดินทางมาเที่ยวที่ถนนข้าวสารมากที่สุด ซึ่งประเมินสถานการณ์ว่าการท่องเที่ยวน่าจะซึมยาวไปถึงปลายปีหากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น.