นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า ครม. เห็นชอบตามกระทรวงการคลังเสนอในการออกร่างพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) ตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร หรือมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด คือ ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด สงขลา หนองคาย นราธิวาส เชียงราย นครพนม และกาญจนบุรี
โดยลดภาษีนิติบุคคลจากเดิม 20% เหลือ 10% โดยเอกชนสามารถลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการได้ ตั้งแต่วันที่ประกาศใน พรฎ.ถึง ธ.ค.63 เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ลดภาษีลงเหลือ 10% เป็นเวลา 10 ปี หรือ 10 รอบระยะเวลาบัญชี สำหรับเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นบริษัทห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยกำไรสุทธิมาจากรายได้ที่เกิดจากการผลิตสินค้าหรือการให้บริการ และมีการใช้บริการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว คาดว่าสรรพากรจะสูญเสียรายได้ 4 ล้านบาท แต่ประโยชน์ที่ได้คือเอสเอ็มอีมีการลงทุนในพื้นที่ ช่วยให้มีการผลิตสินค้าและบริการในพื้นที่จังหวัดชายแดนเพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้ของเอกชนที่บริจาคทรัพย์สินให้ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรรองรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่สถานศึกษาของรัฐ ได้เป็นจำนวน 3 เท่าของที่จ่ายจริง โดยหักรายจ่ายรวมกันต้องไม่เกินกำไรสุทธิในรอบบัญชีที่ใช้สิทธิประโยชน์ภาษี หรือไม่เกิน 100 ล้านบาท แล้วแต่อย่างใดจะน้อยกว่า พร้อมให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่เอกชนที่บริจาคทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดต้องอยู่ในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.63 คาดว่าจะทำให้รัฐจัดเก็บภาษีลดลง 120 ล้านบาท.