เหลือเงินอีก 5 พันล้านบาท คลัง เตรียมออก "ชิมช้อปใช้" เฟส 4 ต่อจากเฟส 3 จะสิ้นสุด 31 ม.ค. โวดีกว่าเดิม งบไม่พอขอเพิ่มได้ ยังกั๊กแจกเงินหรือไม่ ย้ำใช้งบประสิทธิภาพสูงสุด ไม่สุรุ่ยสุร่าย หรือหว่านจ่าย
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้เตรียมมาตรการดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจไทยรับแรงกดดันจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะไวรัสโคโรน่า ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จึงสั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กรมสรรพากร และกรมบัญชีกลาง ศึกษาการดำเนินการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 4 หลังจากดำเนินการไปแล้วทั้ง 3 เฟส จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค.63 นี้ ซึ่งมีงบประมาณในมาตรการดังกล่าวเหลืออยู่ 5 พันล้านบาท จากทั้งหมด 1.9 หมื่นล้านบาท หากงบประมาณไม่พอ เบื้องต้นสามารถนำเงินจากงบกลางปี 2563 มาใช้ได้ก่อน สามารถของบจาก ครม.เพื่อนำมาใช้ได้
สำหรับ “ชิมช้อปใช้” เฟส 4 เป็นการปรับใหม่หมดให้ดีกว่าเดิม โดยคนที่ได้สิทธิจะได้สิทธิเหมือนเดิม อาจจะมีการเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมจากผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ ที่มีอยู่จำนวน 12.6 ล้านราย รวมทั้งจะมีการเปิดรับสมัครร้านค้าให้เข้ามาร่วมลงทะเบียนใหม่ จากเดิมมีอยู่ 1.7 แสนร้านค้า ส่วนการแจกเงินต้องพิจารณาก่อน ไม่ต้องห่วงในเรื่องของงบที่จะใช้ในมาตรการ เพราะรัฐบาลยืนยันว่าจะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช่แบบสุรุ่ยสุร่าย หรือหว่านจ่าย โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประเมินผลมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 3 ในวันที่ 31 ม.ค. โดยมีผู้ได้รับสิทธิ 12.6 ล้านคน ร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ จำนวน 1.7 แสนร้านค้า มีผู้ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ช่องที่ 1 วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท และช่องที่ 2 วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท โดยขอให้ประชาชนที่มีสิทธิออกไปใช้จ่ายก่อนที่มาตรการจะสิ้นสุด
นอกจากนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้มีแนวคิดออกมาตรการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สนับสนุนให้คนไทยเที่ยวเมืองไทย และสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และจะมีมาตรการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ดีขึ้น โดยจะให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการในการปรับปรุงที่พัก แหล่งท่องเที่ยว และอาจให้ผู้ประกอบการนำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มาหักลดหย่อนภาษีได้มากกว่า 1 เท่า.