นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการนำคณะกรรมการเข้าพบนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เพื่อหารือและ ผลักดันข้อเสนอภาคเอกชนในการขับเคลื่อนแนวทางส่งเสริมการประกอบธุรกิจว่า ได้เสนอให้ พิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน จากปัจจุบันเก็บที่ 4.70 บาท/ลิตร จากเดิม 0.20 บาท/ลิตร ซึ่งทำให้ต้นทุนภาษีเพิ่มขึ้นประมาณ 23% เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบการ และสามารถนำนักท่องเที่ยวเดินทางสู่ต่างจังหวัดได้มากขึ้น รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และสร้างโอกาสให้ภาคการท่องเที่ยวของไทย
นอกจากนี้ ยังเสนอให้พิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าไวน์ เพราะปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้าโดยไม่เสียภาษีจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาษีนำเข้าสูง หากรัฐบาลปรับลดลงจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มฐานรายได้ภาษี และกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการมากขึ้น
พร้อมกันนั้นยังเสนอให้ปรับปรุงระบบภาษีสรรพสามิต สำหรับการประกอบการร้านอาหาร (กรณีปิดร้านก่อนเที่ยงคืนและหลังเที่ยงคืน) เพราะปัจจุบันมีการเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นสำหรับร้านอาหารที่จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และมีการแสดงดนตรี หรือการแสดงอื่นๆเพื่อความบันเทิง ที่ปิดหลังเวลา 24.00 น. จากเดิมจะจัดเก็บเฉพาะผับและบาร์เท่านั้น เพื่อทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ยังขอให้สร้างความเข้าใจต่อแนวปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 รวมถึงขอให้จัดทำแอปพลิเคชัน เพื่อตอบข้อซักถามให้ประชาชนศึกษาได้เอง และทำวิดีโอ คลิป อธิบายแนวทางการประเมินและชำระภาษีแต่ละประเภท เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ
“หอการค้าไทยยังได้หารือเพื่อติดตามความคืบหน้าในประเด็นต่างๆ ที่ได้เคยเสนอไว้ เช่น แนวทางขับเคลื่อนการกำหนดมาตรการทางภาษีสรรพากร เพื่อปรับปรุงโรงแรมและห้องพักเก่า รวมทั้งเสนอให้โรงแรมได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีนำเข้าเครื่องจักร และติดตามการลดหย่อนภาษีเงินได้และภาษีที่ดินสำหรับเอกชนผู้ปลูกป่าเศรษฐกิจ โดยขอให้นำค่าใช้จ่ายในการปลูกและดูแลต้นไม้ที่เป็นป่าเศรษฐกิจมาหักลดหย่อนภาษีได้ ขอให้โอนสิทธิการลดหย่อนภาษีดังกล่าวให้ผู้ถือครองรายใหม่ ที่จะรับช่วงดูแลป่าเศรษฐกิจต่อเนื่อง เป็นต้น”.