ส่งออกปี 62 โคม่าติดลบไม่ต่ำกว่า 2%

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า เดือน พ.ย.62 การส่งออกมีมูลค่า 19,656.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 7.39% จากเดือน พ.ย.61 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 นับจากเดือน ก.ค.62 ที่เป็นบวก และยังลดลงสูงสุดในรอบ 3 ปี 7 เดือน นับจากเดือน เม.ย.59 ที่ลดลง 7.60% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 589,983.3 ล้านบาท ลด 14.22% ส่วนการนำเข้า 19,108.1 ล้านเหรียญ ลด 13.78% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 582,028.5 ล้านบาท ลด 20.01% เกินดุลการค้า 548.8 ล้านเหรียญ หรือ 7,954.8 ล้านบาท

ส่วนในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ปี 62 การส่งออกมีมูลค่า 227,090.3 ล้านเหรียญ ลด 2.77% จากช่วงเดียวกันของปี 61 คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 7.054 ล้านล้านบาท ลด 5.61% การนำเข้า 218,081.4 ล้านเหรียญ ลด 5.22% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 6.873 ล้านล้านบาท ลด 7.92% เกินดุลการค้า 9,008.9 ล้านเหรียญ หรือ 180,724.9 ล้านบาท สาเหตุที่ทำให้ส่งออกเดือน พ.ย.62 ลดลง มาจากโรงกลั่นน้ำมันในประเทศหลายแห่งปิดซ่อมตั้งแต่เดือน ก.ย.62 ส่งผลให้ส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ที่มีสัดส่วนสูงถึง 11% ของมูลค่าส่งออกรวมของไทยนั้น มีมูลค่าลดลงตั้งแต่เดือน ก.ย. สูงถึง 30-40% ส่วนเดือน พ.ย.ลดลง 27% คาดจะลดลงต่อเนื่องถึงเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงปิดซ่อม, ราคาสินค้าเกษตรลดลง และยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากสงครามการค้า

“ผลกระทบจากสงครามการค้าเริ่มลดลงแล้ว โดยช่วง 10 เดือนปีนี้ สินค้าไทยที่อยู่ในกลุ่มที่จีน และสหรัฐฯขึ้นภาษีตอบโต้กัน และสินค้าไทยที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีน ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น อะลูมิเนียม แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องซักผ้า อาหาร ยานพาหนะ เพราะไทยผลิตสินค้าที่หลากหลาย และส่งออกไปประเทศที่ 3 แต่ปีหน้าห่วงสงครามการค้าจะย้ายจากจีนไปยุโรป ซึ่งอาจมีผลกระทบแรงขึ้น แต่กระทรวงจะประชุมกับเอกชน เพื่อรับมือสถานการณ์นี้”

อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปี 62 มูลค่าส่งออกจะอยู่ที่ 247,898 ล้านเหรียญ ติดลบ 2% หากเดือน ธ.ค.ส่งออกได้ 20,800 ล้านเหรียญ ส่วนปี 63 คาดจะเป็นบวก หลังสหรัฐฯและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ทำให้บรรยากาศการค้าดีขึ้น ราคาน้ำมันตลาดโลกดีขึ้น ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันดีขึ้น และกระทรวงมีมาตรการเชิงรุกเร่งรัดส่งออก แต่หากต้องการให้มูลค่าส่งออกปี 63 บวก 3.5% แต่ละเดือนต้องส่งออกให้ได้ 21,378 ล้านเหรียญ.