นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือน ธ.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะทำงานด้านการปฏิรูปภาษี เพื่อพิจารณาโครงสร้างภาษีบางเรื่องก่อนจะประกาศใช้หลังช่วงปีใหม่ เพื่อปิดโหว่ด้านภาษี และสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายเขียนไว้ไม่ครอบคลุม ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบและความเป็นธรรมในกลุ่มผู้เสียภาษี
“คิดว่าการปฏิรูปภาษีทั้งระบบในปีนี้ไม่น่าจะทัน แต่กระทรวงการคลังยังคงดำเนินการเรื่องนี้ต่อ และคาดว่าในช่วงหลังปีใหม่จะมีการประกาศการปรับโครงสร้างภาษีบางเรื่องออกมา เนื่องจากการจะปรับภาษีตัวใดต้องคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ ความพร้อมของระบบไอที และความรู้ความเข้าใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย นอกจากนี้ การปฏิรูปภาษีเพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีจะต้องคำนึงถึงความมั่นคง และยั่งยืนของฐานะการคลังของรัฐบาลด้วย”
ส่วนเรื่องการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลง 10% ตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่ได้เคยหาเสียงไว้นั้นยังอยู่ในแผนการปฏิรูปภาษีทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้กำลังพยายามหาแนวทางเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการลดภาษีกับการหารายได้อยู่
ขณะที่การลดหย่อน หรือยกเว้นทางภาษีต่างๆ ซึ่งในปีนี้ ทำสำเร็จแล้วคือ การยกเลิกค่าลดหย่อนทางภาษีของกองทุน รวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่กำหนดให้นำเงินลงทุนไปหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี จำนวน 7 ปี ที่อาจเอื้อกลุ่มคนมีรายได้สูง โดยเปลี่ยนให้ไปลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม Super Saving Fund (SSF) แทน ซึ่งลดอัตราการนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีเหลือต่อปีไม่เกิน 200,000 บาท และต้องถือหน่วยลงทุนยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งจะทำให้คนมีรายได้ปานกลางสามารถซื้อกองทุนได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม กองทุน SSF นี้ สามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภท ทั้งตราสารหนี้ หุ้น กองทุนรวม จากเดิม LTF กำหนดต้องลงทุนในหุ้นไทย 65%.