รวมที่สุดมาตรการแจกแหลก ปี 2562 โปรยเงินสะบัด หลักร้อยยันหลักหมื่น

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รวมที่สุดมาตรการแจกแหลก ปี 2562 โปรยเงินสะบัด หลักร้อยยันหลักหมื่น

Date Time: 14 ธ.ค. 2562 10:01 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • ที่สุดแห่งมาตรการแจกแหลก แจกให้แก่ประชาชนทุกหย่อมหญ้า ทุกระดับทุกวัย โดยเฉพาะในปี 2562 เพียงแค่ปีเดียว รัฐบาลใจดีแจกเงินจุกๆ จนเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์มาแล้วหลายต่อหลายโครงการ ส่วนจะมีโครงการ..

Latest


ที่สุดแห่งมาตรการแจกแหลก แจกให้แก่ประชาชนทุกหย่อมหญ้า ทุกระดับทุกวัย โดยเฉพาะในปี 2562 เพียงแค่ปีเดียว รัฐบาลใจดีแจกเงินจุกๆ จนเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์มาแล้วหลายต่อหลายโครงการ ส่วนจะมีโครงการอะไรบ้าง ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงมาให้ดู

  • ชิมช้อปใช้ แจกเงิน 1,000 บาท

มาตรการที่รัฐบาลภูมิใจนำเสนอ และสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากประชาชนได้อย่างถล่มทลาย ก็คือ ชิมช้อปใช้ แจกเงิน 1,000 บาท และเงินคืน 15-20% จาก G-Wallet ช่อง 2 ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีทั้งเสียงบ่นเสียงด่า บ้างก็ว่าไม่ยั่งยืน บ้างก็ว่าเป็นโครงการประชานิยม บ้างก็บอกว่าทำประชาชนเสียนิสัย ส่วนเสียงชมก็พอมี ไม่ว่าจะเป็น กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือประชาชนในภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือแม้กระทั่งช่วยให้ประชาชนได้เรียนรู้สังคมไร้เงินสด

ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายของชิมช้อปใช้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไรนั้น ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้โชว์ตัวเลขออกมาแล้วว่า ภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2562 มีผู้ใช้สิทธิ์เป็นจำนวน 11,787,584 ราย มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 21,546 ล้านบาท โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่าน G-Wallet ช่อง 2 มีผู้เติมเงินผ่าน G-Wallet ช่อง 2 จำนวน 406,253 ราย และมีผู้ใช้สิทธิ์ผ่าน G-Wallet ช่อง 2 แล้วจำนวน 324,431 ราย ยอดการใช้จ่ายรวม 9,916 ล้านบาท เฉลี่ยการใช้จ่ายผ่าน G-Wallet ช่อง 2 อยู่ที่ 30,564 บาทต่อราย

  • บัตรคนจน ที่สุดแห่งการแจก

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน เป็นอีกหนึ่งโครงการขวัญใจประชาชนผู้มีรายได้น้อย ถามว่าเพราะอะไร เพราะโครงการนี้แจกทุกเดือน เดือนละ 200-300 บาท เอาไว้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น, แจกค่าเดินทางเอาไว้ใช้รถสาธารณะ เดือนละ 500 บาท, แจกค่าน้ำ 100 บาท แจกค่าไฟ 230 บาทต่อเดือน, เงินช่วยเหลือค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ คนละ 400 บาทต่อเดือน, เงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล 1,000 บาท และแจกรายการอื่นๆ อีกสารพัดเกินจะรวบรวมมาได้หมด

ส่วนจำนวนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น มีมากถึง 14.6 ล้านราย แต่ต้องยอมรับว่า มีจนจริง จนปลอม จนบ้างไม่จนบ้าง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามคัดกรองกลุ่มคนเหล่านี้ออก แต่ก็ไม่สามารถทำได้ 100% เพราะเกณฑ์การคัดคนเข้าโครงการนั้นมีความหละหลวม จนทำให้เกิดกลุ่มคนจนไม่จริง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มบัณฑิตจบใหม่ที่สามารถหางานได้ในอนาคต, กลุ่มสามีรวย หรือภรรยารวย หรือแม้กระทั่งกลุ่มคนมีอันจะกิน แต่หลักเกณฑ์ครบถ้วน เป็นต้น

  • บ้านดีมีดาวน์ แจก 50,000 บาท

สำหรับโครงการบ้านดีมีดาวน์นั้น หลักการคือรัฐบาลจะสนับสนุนเงินดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50,000 บาท ให้แก่ผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัย และต้องยอมรับว่าโครงการดังกล่าวถูกจับตามองและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า มาตรการดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการมากกว่าประชาชน

ขณะที่รัฐบาลเองก็ยืนยันว่า โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีบ้าน อีกทั้งยังช่วยเคลียร์สต็อกบ้านสร้างใหม่ที่ตกค้างอยู่อีกกว่า 2.7 แสนยูนิต ดังนั้นถ้ารัฐบาลสามารถจัดการในจุดดังกล่าวได้ ก็จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อไปใช้ลงทุนใหม่ และจะเป็นผลดีกับระบบเศรษฐกิจของประเทศในที่สุด

  • ธอส. แจกเงิน 1,000 บาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยการจ่ายเงินคืน 1,000 บาทให้แก่ลูกค้าที่เหลือวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวน 178,000 บัญชี คิดเป็นวงเงิน 90 ล้านบาท 

ถ้าถามว่า ลูกค้าคนไหนจะได้บ้าง? คำตอบก็คือ ต้องเป็นลูกค้าที่มีประวัติการชำระดีติดต่อกัน 48 เดือน ซึ่งทาง นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. ก็ออกมายันว่า “วงเงินที่ใช้ 90 ล้านบาทถือว่าไม่มาก เป็นการดูแลลูกค้าของธนาคารที่มีประวัติชำระดี”

  • แจกค่าเกี่ยวข้าว ค่าปลูกข้าว 20,000 บาท 

รัฐบาลมอบของขวัญส่งท้ายปีให้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2562/63 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่เกษตรกร

โดยเกษตรกรจะได้เงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาท โดยโอนเงินให้ครบทั้งหมดภายในวันที่ 30 เมษายน 2563

ใครใคร่ได้ ก็ไปเสาะหาวิธี ให้ได้มา
ใครไม่สน ไม่สนับสนุน ก็งดรับ
ขึ้นอยู่กับความคิด ทัศนคติส่วนบุคคล.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "สรุปข่าวเด่นปี 2562"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ