คาบลูกคาบดอก : รายได้–รายจ่ายของประเทศ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คาบลูกคาบดอก : รายได้–รายจ่ายของประเทศ

Date Time: 15 พ.ย. 2562 05:01 น.

Summary

  • เป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควรในยุคข้าวยากหมากแพง ต่อการจัดสรรงบประมาณของประเทศให้เกิดความสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่าย

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้


เป็นเรื่องที่ยากลำบากพอสมควรในยุคข้าวยากหมากแพง ต่อการจัดสรรงบประมาณของประเทศให้เกิดความสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่าย ซึ่งโดยปกติ จีดีพี หรือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับรายได้จากการส่งออก การบริการ และการลงทุน ในอดีตประเทศไทยมีรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกยางพารา ส่งออกข้าว เหมืองแร่จากงานบริการและแรงงานที่ไปขุดทองในต่างประเทศ

แต่ปัจจุบันรายได้หลักเหล่านี้ลดลง การส่งออกก็ลดลง การบริการที่ได้จากการท่องเที่ยวก็ลดลงตาม สถานการณ์เศรษฐกิจโลก รายได้ส่วนใหญ่จึงมาจากภาษีที่เก็บในประเทศ รายได้จากรัฐวิสาหกิจ และจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นหลัก

การท่องเที่ยวที่สร้างรายได้เข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวปีละมากกว่า 2 ล้านล้านบาท จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก รายได้จากรัฐวิสาหกิจ ที่ถือเป็นองค์กรหลักในการสร้างรายได้ให้รัฐ ส่งรายได้เข้ารัฐเพื่อนำเงินไปพัฒนาประเทศ

เป็นส่วนที่รัฐบาลจะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ

มากกว่าที่รัฐจะไปให้ความสำคัญกับภาคเอกชนด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่จะต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ไม่ให้เกินความจำเป็น แบบค่อยเป็นค่อยไป จะเหมาะสมกว่า

รัฐวิสาหกิจ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจแทนรัฐ สร้างความมั่นคงและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านการผลิตสินค้าหรือบริการที่เอกชนไม่มีความพร้อม โดยยึดหลักการที่ว่าเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เป็นทางเลือกสาธารณะ ตามกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่จะต้องดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังป้องกันการผูกขาด ในกิจการที่เป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า ประปา ถนนหนทางการคมนาคม เป็นต้น เพราะถ้าให้เอกชนเป็นคนดำเนินการอาจมีการพิจารณาที่กำไรขาดทุนมากกว่าการดูแลให้ความสะดวกกับประชาชน

สามารถเรียกร้องค่าตอบแทนได้ตามอำเภอใจ

ในปีงบประมาณ 2562 รัฐวิสาหกิจสามารถที่จะจัดเก็บเงินนำส่งรายได้ให้กับรัฐในกิจการที่ กระทรวงการคลัง ถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 รวม 169,159 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 88 ของเงินที่นำส่งรายได้ทั้งหมด

รัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงสุด ได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 41,916 ล้านบาท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย 29,198 ล้านบาท การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 18,924 ล้านบาท ธนาคารออมสิน 16,538 ล้านบาท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 10,903 ล้านบาท

คำถามก็คือว่า ในเมื่อรัฐได้รับผลตอบแทนจากรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ เป็นสัดส่วนที่มากที่สุดของรายได้รัฐ แต่รัฐให้ความสำคัญรัฐวิสาหกิจและพนักงานรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ให้มีคุณภาพชีวิตดีแค่ไหน ต้องกลับไปทบทวน.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ