นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุของภาคเอกชนว่า ได้พบปะ พูดคุยกับเจ้าของธุรกิจเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์สถานการณ์ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุของไทย และจัดทำแผนการส่งเสริมธุรกิจบริการดูแลผู้สูงอายุของไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุที่แตกต่างกันไป และยังเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับจำนวนผู้สูงอายุในไทยที่คาดว่าในปี 2573 จะมีสัดส่วนมากถึง 17.4 ล้านคน หรือ 26.57% ของประชากรทั้งหมด
“ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งพัฒนาธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศให้มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล เพราะแม้ว่าหน่วยงานภาครัฐจะมีสถานดูแลผู้สูงอายุที่เป็นสวัสดิการให้บริการประชาชนอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุในอนาคต จึงต้องผลักดันให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และสร้างวิธีจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในธุรกิจประเภทนี้เพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้ ในปัจจุบันฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่จดทะเบียนนิติบุคคลในปี 2561 จำนวน 273 ราย มีรายได้รวมจำนวน 175.24 ล้านบาท จากผู้ยื่นงบการเงิน 165 ราย
สำหรับแนวทางการพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ นอกเหนือจากการพัฒนาระบบการบริหารจัดการให้มีมาตรฐานสากล ยังจะช่วยพัฒนาศักยภาพทางการตลาด การช่วยสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ โดยเฉพาะกับธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น การออกกำลังกาย การท่องเที่ยวแบบทัวร์ หรือการ ใช้ Social Media สื่อสารระหว่างเพื่อนและลูกหลาน บริการทางการเงิน ประกันสุขภาพ การออกแบบโภชนาการ และการบริการจัดงานศพแบบครบวงจร เป็นต้น.