นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สมอ. กับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (เอ็ตด้า) ว่า ได้ขอความร่วมมือกับเอ็ตด้า เฝ้าระวังการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ บนหน้าเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ให้ได้คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย
หลังจากที่ผ่านมา สมอ.ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ จำหน่ายสินค้าออนไลน์กว่า 50 ราย เช่น บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) บริษัทเซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ช บริษัท ซีพีแลนด์ บริษัท ทีวีไดเร็ก บริษัท ไฮ ชิปปิ้ง ซึ่งหลายๆบริษัทได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีได้ตั้งทีมเฝ้าระวัง หากมีสินค้าไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ภาคบังคับ 115 รายการ จะเข้าไปดำเนินการทันที แต่ยังมีบางบริษัทฯ ที่ไม่ได้ให้ความร่วมมือ
“ที่ผ่านมาหลายๆบริษัทฯที่ขายสินค้าออนไลน์ ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบสินค้า ที่ขายบนแพลตฟอร์มตัวเองว่า ได้ มอก. โดยเฉพาะสินค้า 115 รายการ ที่เป็น มอก.ภาคบังคับ และต้องขายสินค้าที่ได้ มอก.เท่านั้น แต่ก็มีบางราย ไม่ให้ความร่วมมือ จึงต้องมาร่วมมือกับเอ็ตด้า ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบการทำธุรกรรมสินค้าออนไลน์จะรู้ข้อมูลดี เพื่อร่วมกันเฝ้าระวังป้องกัน ไม่ให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลกระทบได้รับบาดเจ็บ จากการใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐาน และเสียทรัพย์โดยไม่จำเป็น”
สำหรับ ปีงบประมาณ 2562 (ต.ค. 61-ก.ย.62) สมอ.ได้พลิกประวัติศาสตร์การมาตรฐานของไทย ให้มีผลการดำเนินงานในรอบปีสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากได้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ โดยออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการรวม 10,180 ฉบับ จากปกติออกใบอนุญาตปีละไม่เกิน 5,000 ฉบับ มีมาตรฐานที่สำคัญๆ เช่น มอก. 2721-2560 หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ยางล้อสูบลม : ข้อกำหนดด้านเสียงจากยางล้อ ที่สัมผัสผิวถนนการยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และยังได้ติดตามผู้รับใบอนุญาตนำเข้าสินค้า ที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการออกใบอนุญาต และสั่งพักใช้ใบอนุญาตผู้นำเข้าสินค้ามากที่สุด 3,566 ฉบับ.