โรบินสันปรับแผนรับมือเทคโนโลยีดิสรัปชัน บุกคอนเซปต์คอมมูนิตี้มอลล์ในกรุงเทพฯแห่งแรก ทุ่มทุนกว่า 2,000 ล้านบาท เปิดศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง ฟอร์แมตมอลล์ใหญ่ที่สุด พร้อมเร่งเครื่องพลิกโมเดลธุรกิจปัจจุบัน สู่การเป็น “Omni Channel Department Store”
โดยคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นค้าปลีกที่มีการขยายตัวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง รองจากศูนย์การค้า เพราะเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และมีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าเหมาะกับการเป็นคอมมูนิตี้ของคนรุ่นใหม่
นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรบินสัน เดินหน้าขยายธุรกิจผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก คือ การขยายสาขาและการบริหารพื้นที่ขาย โรบินสันได้เตรียมเปิดสาขาในรูปแบบศูนย์การค้าแห่งล่าสุดที่ลาดกระบัง ในเดือน พ.ย.นี้ เป็นสาขาที่ 50 และเป็นสาขาที่ 23 ในรูปแบบศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์
ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ในรูปแบบศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 50,000 ตารางเมตร ในคอนเซปต์ “โอเอซิส” (Oasis) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การช็อปที่ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน (New Life Experience) ไม่ว่าจะเป็นโซน Kid Oasis ที่รวมทุกความบันเทิงของเด็กๆ ทั้ง Playland, Learning Education, Kids Cinema โซน New Gen Oasis โซนชิกๆสำหรับคนรุ่นใหม่ในรูปแบบ Concept Stores ทั้งกลุ่มแฟชั่น บิวตี้ คาเฟ่ ฟิตเนส รวมทั้ง Co-Working Space เพื่อเป็นเดสติเนชันของการอัปเดตเทรนด์และแฮงเอาต์แห่งใหม่ ซึ่งมีไฮไลต์อย่าง Craftfeteria Craft Space ที่มีหลากหลายเวิร์กช็อปที่น่าสนใจ เช่น Lip Lab ที่ให้นักช็อปได้สนุกกับการผสมสีลิปสติกในสไตล์ของคุณเองแบบ “แท่งเดียวในโลก” โซน Family Oasis ที่จะเติมเต็มความสุขของกลุ่มครอบครัว ทั้งร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์ชั้นนำ และอำนวยความสะดวกสบายกับอาคารจอดรถกว่า 1,600 คัน
“ลาดกระบังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ศักยภาพที่มีปัจจัยและโอกาสที่จะเอื้อให้เกิดความสำเร็จสูงในธุรกิจ ทั้งในเรื่องของการมีคู่แข่งค้าปลีกที่น้อย การเติบโตของตัวเลขผู้พักอาศัย ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ธุรกิจการบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหมู่บ้านขนาดใหญ่ระดับลักชัวรี โดยกลุ่มผู้พักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำ และมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง จึงส่งผลให้เป็นพื้นที่ที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดี”
สำหรับศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง เป็นการขยายสาขารูปแบบของ “คอมมูนิตี้มอลล์แบบปิด” ที่เอาจุดอ่อนของคอมมูนิตี้มอลล์แบบเปิด หรือโอเพ่นมอลล์ การเป็นศูนย์การค้าแนวราบที่ไม่ติดเครื่องปรับอากาศ ทำให้บรรยากาศไม่น่าเดิน ขณะที่จำนวนร้านค้าโดยเฉพาะร้านอาหารก็มีไม่มาก แถมยังมีที่จอดรถค่อนข้างน้อย แต่ข้อดีของศูนย์การค้าแนวนี้จะอยู่ที่การเข้าไปเปิดสาขาในย่านชุมชนที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้
“โรบินสันคอมมูนิตี้มอลล์ ขนาดจะเล็กกว่าศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่มีบริษัทในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลทำอยู่ถึง 3-4 เท่า จึงน่าจะเติบโตได้ตามการขยายตัวของชุมชน เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนในชุมชนที่ใช้เวลาขับรถมาไม่เกิน 30 นาที เพราะถ้าใช้เวลาเกินกว่านั้น จะเป็นการตั้งใจไปที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่หมด เช่นเดียวกับการเติบโตในต่างจังหวัดก็ยังมีแนวโน้มที่ดีตามการเติบโตของสังคมเมือง และการเพิ่มขึ้นของคนชั้นกลาง”
นอกจากนี้ ภายในปี 2562 โรบินสันยังมีการรีโนเวท 7 สาขาศักยภาพ ที่มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ และยอดขายที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ, สุพรรณบุรี, ตรัง และกาญจนบุรี และห้างสรรพสินค้าอีก 3 แห่ง คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ซีคอนสแควร์ เชียงราย และจังซีลอน
นอกจากสาขาใหม่แล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์หลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของโรบินสันคือ การพัฒนาธุรกิจเพื่อก้าวสู่การเป็น “Omni Channel Department Store” ที่สมบูรณ์แบบ เพื่อปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ “Digital Disruption” ที่เทคโนโลยีและสื่อดิจิทัลมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้พฤติกรรมการช็อปปิ้งของนักช็อปเปลี่ยนแปลงไป และมีความต้องการที่สูงขึ้น ลูกค้าจะเน้นการช็อปปิ้งที่สะดวกสบาย เข้าถึงได้ง่าย มีความพร้อมของข้อมูลสินค้า และไม่ซับซ้อนในเรื่องของขั้นตอนการช็อปปิ้ง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์ที่แข็งแกร่งของโรบินสันอย่าง Robinson Shop Online ช็อปสินค้าแบรนด์ชั้นนำได้ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ www.robinson.co.th
การปรับธุรกิจเป็นศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์แบบปิดในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลยังมีอีกค่อนข้างมาก เพราะการขยายตัวของชุมชนยังมีออกมาอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของเมือง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดกับส่วนต่อของแนวรถไฟฟ้า ขณะที่บางพื้นที่อย่างย่านฝั่งธนฯ ก็ยังไม่มีศูนย์การค้าในชุมชนมากนัก โดยเฉพาะกับสาขาของโรบินสันที่มีแค่เพียง 1 สาขาคือที่บางแค
การปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ รวมถึงการเป็นห้างแบบ Omni Channel เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคสังคมดิจิทัลนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง.
วานิชหนุ่ม
wanich@hotmail.com