ลดภาษีเงินได้บุคคลส่อล่ม

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการทำงานให้กับกรมสรรพากรว่า ได้มอบหมายให้นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าทีมดำเนินการปรับโครงสร้างภาษีของไทยทั้งระบบ

ส่วนการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้ถือเป็นภารกิจหลักของกรมที่จะต้องลดความเหลื่อมล้ำเพิ่มขีดความสามารถ โดยจะประชุมนัดแรกวันที่ 30 ส.ค.นี้ “ตอนเลือกตั้งผมพูดว่าจะปรับโครงสร้างภาษีทั้งหมด ส่วนการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลง 10% เป็นเพียงการยกตัวอย่าง ยังไม่ได้ระบุรายละเอียด ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติในการหาเสียง แต่การลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาพร้อมสั่งการให้กรมศึกษาโครงสร้างภาษีของอาเซียน เพื่อนำมาปรับใช้กับไทย”

นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายให้กรมสรรพากรพัฒนาโครงสร้างดิจิทัล โดยนำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) มาวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อขยายฐานภาษีและลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงนำบล็อกเชนมาใช้เป็นหน่วยงานแรก คาดจะเริ่มใช้ได้เดือน ต.ค.นี้

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ร่างกฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ในต่างประเทศนั้น กรมได้ยืนยันร่างเดิมไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปีหน้าและจะช่วยเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บให้กับกรมได้ 30,000-40,000 ล้านบาท ส่วนการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ปัจจุบันมีฐานผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดา 11 ล้านคน แต่เสียจริง 4 ล้านคน หรือ 17% ของการจัดเก็บรายได้ 2 ล้านล้านบาท โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียภาษีจริงหลังหักค่าลดหย่อนแล้ว 3% เท่านั้น และเม็ดเงินที่ได้จากคนกลุ่มนี้สูงถึง 72% ของรายได้ 400,000 ล้านบาท หากลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามากเกินไป จะกระทบการจัดเก็บรายได้และเกิดปัญหาเหลื่อมล้ำในสังคม.