กรมการค้าภายใน ถกด่วนวางแผนทำข้าวสารเหนียวถุงราคาถูก คาดขายต้นเดือน ก.ย. ขีดเส้นแจ้งสต็อก จนถึงเวลา 4 โมงครึ่ง วันที่ 27 ส.ค.นี้ "จุรินทร์" ลั่นพบใครกักตุน ปฏิเสธการขาย เจอโทษหนัก
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการทำข้าวสารเหนียวบรรจุถุงราคาถูกขายให้ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในช่วงนี้ที่ราคาข้าวเหนียวเพิ่มสูงขึ้น ว่า วันที่ 28 ส.ค.นี้ จะเชิญโรงสี ผู้ค้าข้าวถุง และผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีก มาหารือถึงการทำข้าวสารเหนียวบรรจุถุงราคาถูกกว่าท้องตลาดขายให้ประชาชน ส่วนการวางขาย พิจารณาไว้ 2 ช่องทาง คือ ร้านธงฟ้า เพื่อให้สิทธิ์ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือห้างค้าปลีก แต่กำหนดให้ผู้ซื้อต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่างไรก็ตาม หากได้ข้อสรุปชัดเจน คาดว่าภายในต้นเดือน ก.ย. จะวางจำหน่ายแน่นอน โดยราคาจะต่ำกว่า กก.ละ 50 บาท ซึ่งเป็นราคาตลาดขณะนี้
"สถานการณ์ราคาจะสูงเช่นนี้ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง เพราะขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว และผลผลิตข้าวเหนียวออกมาเกือบหมดแล้ว พอถึงเดือน ต.ค. ที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด ราคาน่าจะคลี่คลาย"
สำหรับผลผลิตข้าวเหนียวฤดูการผลิตปี 61/62 ปริมาณลดลงมาก จากภาวะภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตเสียหาย ส่งผลให้การส่งออกข้าวเหนียวลดลงด้วยถึง 45% ส่วนผลผลิตฤดูกาลใหม่ปี 62/63 ที่จะเริ่มออกเดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป ยังไม่ทราบจะมีเท่าไร แต่โดยเฉลี่ยไทยผลผลิตข้าวเหนียวได้ปีละ 6 ล้านตันข้าวเปลือก
ส่วนสต็อกล่าสุดของผู้ค้าในเดือน ส.ค. พบว่า มีข้าวเปลือกเหนียวประมาณ 30,000 ตัน และข้าวสารเหนียว ประมาณ 100,000 ตัน ยังไม่รวมกับสต็อกที่กำหนดให้ผู้ค้าข้าวต้องแจ้งมา ตั้งแต่วันที่ 26-27 ส.ค.นี้
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะออกประกาศตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ฉบับที่ 150 เพื่อให้ผู้ที่มีข้าวในครอบครอง ทั้งโรงสี ผู้ค้าส่ง และผู้ส่งออก รายงานสต็อกข้าวเหนียวมาที่กรมการค้าภายใน ตั้งแต่วันที่ 26-27 ส.ค.นี้ สิ้นสุดเวลา 16.30 น. หรือแจ้งที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศได้ด้วย
"หลังจากแจ้งสต็อกมาแล้ว กรมการค้าภายใน จะตรวจสอบว่ามีการกักตุนเพื่อปั่นราคาหรือไม่ และมีการจำหน่ายราคาสูงเกินสมควรหรือไม่ โดยหากไม่รายงานสต็อก หรือรายงานไม่ตรงกับความเป็นจริง จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีกักตุนหรือขายราคาสูงเกินสมควร มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศตรวจสอบสถานการณ์การค้าและสต็อกด้วยเช่นกัน".