หัวเว่ยพร้อมจ่ายมากกว่า 5 เท่า ประกาศกร้าวดึงคนเก่งทั่วโลกเข้ามาทำงานด้วย หวังชิงความเป็นที่หนึ่งในเจ้ายุทธจักร และต่อสู้กับสหรัฐฯ ที่กำลังทำสงครามการค้า สกัดดาวรุ่งบริษัทจีนทุกวิถีทาง
หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ซึ่งเป็นสื่อจีนในเครืออาลีบาบา รายงานว่า หัวเว่ย เทคโนโลยี ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่กำลังถูกไล่บี้จากผลพวงของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ได้ประกาศชักชวนให้คนเก่งจากทั่วโลกที่มีความเชี่ยวชาญโดดเด่นด้านคณิตศาสตร์ เคมี วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ฟิสิกส์ ชิป และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มาร่วมทำงานด้วย โดยหัวเว่ยจะจ่ายค่าตอบแทนให้มากกว่าอัตราตลาดถึง 5 เท่า
โดยหัวเว่ยได้ประกาศผ่านบัญชี WeChat ของบริษัทว่า “ถ้าคุณเป็นที่สุดของความเก่ง และอยากก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งเทคโนโลยียุคปัจจุบันคุณคือคนที่เราต้องการ”
South China Morning Post ระบุว่า หัวเว่ยพร้อมที่จะจ่ายมากกว่าอัตราทั่วไปถึง 5 เท่า เพื่อดึงดูดคนเก่งระดับเวิลด์คลาสให้มาร่วมงานด้วย โดยเรตเริ่มต้นสำหรับการว่าจ้างพนักงานระดับปริญญาตรีที่มีผลการเรียนระดับท็อปอยู่ที่ประมาณปีละ 300,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 9 ล้านบาท
นอกจากนั้น หัวเว่ยยังเป็นบริษัทที่ทุ่มเงินลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงถึง 10% ของรายได้ต่อปี (เมื่อปีที่แล้วใช้เงินประมาณ 14,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 432,000 ล้านบาท คิดเป็น 14.1% ของรายได้ทั้งหมด) และเมื่อปีที่ผ่านมา พนักงานหัวเว่ยมากกว่า 80,000 คน หรือราว 45% ของพนักงานทั้งหมด ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานวิจัยและพัฒนา
สื่อใหญ่ของจีนระบุอีกว่า จีนกำลังแข่งขันอย่างหนักที่จะเอาชนะสหรัฐอเมริกาในเรื่องของเทคโนโลยีให้ได้ หลังจากที่สงครามการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2561 ทวีความรุนแรงขึ้นนำไปสู่การตอบโต้ด้วยการผลัดกันขึ้นภาษีนำเข้าไปมาระหว่างกันหลายระลอก รวมทั้งการเริ่มใช้มาตรการกีดกันทางการค้าต่อบริษัทจีน โดยมีหัวเว่ยเป็นเป้าหมายเบอร์ 1
นอกเหนือจากการต่อสู้ด้านการค้าแล้ว หัวเว่ยภายใต้แรงหนุนจากรัฐบาลจีน จึงกำลังพยายามเอาชนะสหรัฐฯด้านความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีด้วย เพราะเชื่อว่าจะเป็นการซื้ออนาคต โดยเฉพาะการคิกออฟโครงข่าย 5 จี ซึ่งจีนภาคภูมิใจมากว่านำหน้าเหนือสหรัฐฯอยู่
ในช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาหัวเว่ยได้ประกาศผ่านอีเมล ลงนามโดยผู้ก่อตั้งและซีอีโอว่า กำลังต้องการว่าจ้างบุคลากรระดับท็อปของโลกจำนวน 20-30 ตำแหน่ง เพื่อหวังสร้างความสามารถในการแข่งขันและเอาชนะสงครามการค้าในครั้งนี้.