นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เผยว่า ถึงกรณีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนกำหนดค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน ลงมาต่ำในรอบ 11 ปี ซึ่งเมื่อเทียบกับเงินบาทถือว่าค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง มากกว่า 10% ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับนักท่องเที่ยวจีนที่จะมาเที่ยวไทยตลอดทั้งปีนี้ทันที จากที่คาดว่าจะมี 11.5-12 ล้านคน จะเหลืออยู่ที่ 11 ล้านคน คิดเป็นรายได้เข้าประเทศที่จะพลาดไปจากเป้าหมายเดิมประมาณ 20,000-40,000 ล้านบาท แต่ถ้าหากค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ก็คงกลับไปเท่ากับปี 61 ที่มีจำนวน 10.5 ล้านคน
ทั้งนี้ การขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่ระดับ 10% ขึ้นไปคงจะไม่ได้เห็นและคงเติบโตแบบชะลอตัว ยิ่งมาเจอปัญหาค่าเงิน ก็ยิ่งพูดไม่ออกและเราก็รับบทหนักเพราะจีนถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่สุด ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวขนาดกลางและขนาดเล็กเริ่มมีปัญหาขาดสภาพคล่อง ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลตั้งกองทุนที่ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกับคนกลุ่มนี้
“สิ่งที่หวังตอนนี้คือ จากการไปเข้าพบนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า เตรียมเสนอเรื่องให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้เพื่อให้พิจารณายกเว้นการตรวจลงตรา หรือ วีซ่า ให้กับนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย เป็นกรณีพิเศษ ภายใต้ระยะเวลา 1 ปี รูปแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่นยกเว้นให้กับนักท่องเที่ยวไทย คือไม่ต้องขอวีซ่าเลย มีเพียงพาสปอร์ตก็เข้าประเทศไทยได้ ผมอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวจีนให้กลับเข้ามาไทยได้แน่ๆ และยังได้อานิสงส์ถึงนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมามากขึ้นอีกด้วย”.