วิถีชีวิตหรือไฟล์สไตล์ของสังคมเมืองที่เปลี่ยนแปลงในยุคของความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สมาร์ทโฟนเข้ามาบทบาทที่สำคัญในการดำรงชีวิตประจำวัน เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่ความเจริญของบ้านเมืองก็ได้เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่ได้มีการขยายเส้นทางเพื่อตอบสนองปัญหาวิกฤติจราจรหลายๆ ปัจจัยล้วนแต่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค
ในกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกเองก็ได้เร่งปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยเฉพาะทุกค่ายหันมาเร่งให้บริการออนไลน์และจัดส่งถึงที่เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค อีกทางหนึ่งก็ปรับปรุงรูปแบบค้าปลีกให้เหมาะสมโดยเฉพาะการปรับขนาดพื้นที่ขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง และเร่งปรับปรุงพื้นที่ขนาดเล็กให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ในช่วงที่ผ่านมาร้านสะดวกซื้อเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด มีหลายค่ายได้ปรับตัวและมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างบริษัทวีจีไอ โกลบอล มีเดียซึ่งเป็นทราบกันดีว่าเป็นบริษัทในเครือของ “บีทีเอส” ได้ร่วมทุนเพี่อผุดร้านสะดวกซื้อลอว์สัน “Lowson108” บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยวางเป้าหมายเปิด 30 สาขา นับเป็นทำเลทองที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างลงตัว
ยังไม่นับรวมกับการขยายสาขาในย่านชุมชนรองรับผู้บริโภคชาวไทยที่นิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่มีจำหน่ายหลากหลายอาทิ โอเด้ง อาหารทอด แซนด์วิชหมูทอดญี่ปุ่น เป็นต้น โดยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเปิดให้บริการ 123 สาขา รวมทั้ง Lawson Cafe กาแฟขายราคาเฉลี่ยต่อแก้ว เมนูร้อน 25-30 บาท ส่วนเมนูกาแฟเย็น 30-40 บาท โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายฐานตลาด ทั้งการเลือกสินค้าและบริการรวมไปถึงดึงดูดกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่
ทางด้านเทสโก้ โลตัส เป็นผู้ประกอบการรายล่าสุดที่ประกาศปรับโฉมค้าปลีกให้ตอบสนองสังคมเมือง สำหรับสาขาไฮเปอร์มาร์เกต ซึ่งเป็นศูนย์ขนาดใหญ่มี 400 สาขา ซึ่งเป็นสาขาขนาดใหญ่จะทำการปรับปรุง และบางแห่งลดขนาดพื้นที่ลง เพิ่มที่สัดส่วนของมอลล์หรือร้านอาหารเพิ่มขึ้น เช่นสาขาพัฒนาการเดิมพื้นที่ ขนาด 10,000 ตารางเมตร ปรับพื้นที่เหลือ 4,000 ตารางเมตร แต่เพิ่มพื้นที่ทางด้านของมอลล์หรือพื้นที่เช่าและร้านอาหารแทน
ในส่วนของโลตัส เอ็กซ์เพรส ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการ 1,600 สาขา มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 750 สาขาเปิดเร็วขึ้นกว่าปกติถึง 5 เท่าตัว พร้อมปรับรูปโฉมใหม่โดยตั้งเป้าปรับโฉมใหม่ให้เสร็จภายใน 3 ปีข้างหน้าโดยใช้งบประมาณสาขาละ 5-6 ล้านบาทขึ้นไป
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มสัดส่วนสินค้าที่จำหน่ายในโลตัส เอ็กซ์เพรสคือเพิ่มกลุ่มอาหารพร้อมรับประทานให้มากขึ้น ส่วนอาหารสดที่ผู้บริโภคซื้อนำไปปรุงอาหารที่บ้านจะต้องเน้นหนักต่อไป ที่สำคัญคือยังไม่ละทิ้งจุดแข็งคือการเน้นถึงการช็อปปิ้งทั้งด้านราคาและความคุ้มค่าส่วนกำลังซื้อของผู้บริโภค
รวมทั้งการให้บริการร้านกาแฟโดยจับมือกับโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) นำเมล็ดกาแฟคุณภาพสูงมาเป็นวัตถุดิบสำหรับกาแฟสดในเครื่องดื่มกาแฟหลาก หลายเมนู เริ่มต้นจำหน่ายในร้านเทสโก้ โลตัส เริ่มแรก 44 สาขา ในราคาแก้วละ 25 บาท และ 30 บาท
เทสโก้ โลตัส มีแผนที่จะรับซื้อเมล็ดกาแฟเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการขยายการจำหน่ายกาแฟสดในเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสอีก 1,000 สาขาทั่วประเทศในระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้ เมล็ดกาแฟจากโครงการพัฒนาดอยตุงในรูปแบบกาแฟบดคั่ว ยังมีวางจำหน่ายในเทสโก้ โลตัส สาขาขนาดใหญ่อีกด้วย
สำหรับร้านแฟมิลี่มาร์ทในกลุ่มเซ็นทรัลเองปัจจุบันมีจำนวน 1,008 สาขาได้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มให้ครบ 3,000 สาขาภายใน 3 ปีข้างหน้า กับเคาน์เตอร์กาแฟ Arigato แบรนด์กาแฟนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น รสชาติดี และราคาไม่แพง เมนูร้อนแก้วละ 25 บาท ถ้าเป็นเมนูกาแฟเย็นอยู่ที่แก้วละ 35 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจนมีแผนไปเปิดนอกร้านแฟมิลี่มาร์ท
ส่วนเซเว่นอีเลฟเว่น ในปีนี้มีแผนขยาย 700 สาขา จะทำให้เซเว่นอีเลฟเว่นมีสาขารวมทั่วประเทศถึง 11,688 สาขา อีกทั้งยังว่าเป้าหมายใน
ปี 2564 ขยายสาขาให้ครบ 13,000 สาขา แน่นอนว่าจุดขายเป็นอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ กาแฟจาก All Cafe ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในเรื่องรสชาติและราคาที่คุ้มค่า
ผู้ประกอบการค้าปลีกทุกค่ายพร้อมลุยศึกร้านสะดวกซื้อที่มองว่ามีแนวโน้มเติบโตไปกับสังคมเมืองกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การเติบโตของร้านสะดวกซื้อถูกมองว่ายังมีช่องทางการขยายตัวอีกมากมายแม้ว่าเรามองไปรอบๆ แล้วจะเห็นร้านสะดวกซื้อมีอยู่ในทุกหนแห่งก็ตาม.
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th