ซีพีเอฟลงทุนในสตาร์ตอัพ "ดัคกาลบี้ กรุ๊ป"

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ซีพีเอฟลงทุนในสตาร์ตอัพ "ดัคกาลบี้ กรุ๊ป"

Date Time: 27 ก.ค. 2562 05:01 น.

Summary

  • บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าลงทุนทางด้าน นวัตกรรม หนึ่งในกลยุทธ์ของรูปแบบสมัยใหม่ตอบโจทย์การเป็นครัวโลก ด้วยการสนับสนุนธุรกิจผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Starup)

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าลงทุนทางด้าน นวัตกรรม หนึ่งในกลยุทธ์ของรูปแบบสมัยใหม่ตอบโจทย์การเป็นครัวโลก ด้วยการสนับสนุนธุรกิจผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Starup) ที่มีเป้าหมายหลักประสบความสำเร็จกับธุรกิจร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศ

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นศักยภาพของสตาร์ตอัพไทย ตลอดจนเข้าใจถึงข้อจำกัดที่กลุ่มคนเหล่านี้มักต้องประสบ จึงมีแนวคิดที่จะร่วมสนับสนุนให้สตาร์ตอัพร้านอาหารของไทยสามารถก้าวผ่านอุปสรรคและสานต่อความฝันในการขยายธุรกิจร้านอาหารให้เป็นเชนร้านอาหารในระดับโลกได้

“บริษัทจะพิจารณาเข้าสนับสนุนสตาร์ตอัพที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการสร้างร้านอาหารของตนเองให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงมีวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งขยายเชนสาขาร้านอาหารทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ สอดคล้องกับเป้าหมายของ CPF โดยบริษัทพร้อมสนับสนุน ทั้งเทคโนโลยีและระบบรองรับต่างๆ ตลอดจนในการขยายธุรกิจรวมถึงการสนับสนุนด้านการเงิน”

ทางซีพีเอฟได้เลือก ดัคกาลบี้ กรุ๊ป เป็นสตาร์ตอัพรายแรกที่บริษัทให้การสนับสนุน โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ในการเข้าถึงเทคโนโลยี ระบบบริหารจัดการ องค์ความรู้ เครือข่าย เงินทุน และทรัพยากรต่างๆ รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากทีมงานมืออาชีพของซีพีเอฟ ซึ่งจะช่วยให้สตาร์ตอัพกลุ่มนี้ สามารถใช้ศักยภาพที่มีในการขยายงานและพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เติบโตสู่การเป็นเจ้าของเชนร้านอาหารระดับโลก (Global Chain Restaurant) ได้ในอนาคต

ทางซีพีเอฟได้เข้าร่วมถือหุ้นกับบริษัทดังกล่าวในสัดส่วน 60:40 ทางซีพีเอฟถือในสัดส่วน 40% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนจำนวน 55 ล้านบาท โดยทางซีพีเอฟจะพิจารณาการลงทุนในสตาร์ตอัพเป็นรายๆ ไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องลงทุนในสัดส่วนเท่านั้น เท่านี้ เพียงแต่จะพิจารณาเลือกลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพที่มีรูปแบบการดำเนินการและพร้อมจะดำเนินการแล้ว ส่วนธุรกิจสตาร์ตอัพที่อยู่ระหว่างเริ่มก่อตั้งนั้นทางซีพีเอฟจะเลือกลงทุนในกองทุนที่เข้าไปลงทุนอีกที

ทั้งนี้ บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด เกิดขึ้นในปี 2554 จากกลุ่มสตาร์ตอัพ 4 คน ที่มีวัยเพียง 20-23 ปี ในขณะนั้น ได้เริ่มต้นดำเนินธุรกิจร้านอาหารเกาหลี (Real Time Cooking) ในชื่อร้าน “Dak Galbi” จากเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของร้านอาหารและความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แบรนด์ “Dak Galbi” เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคไทย และสามารถขยายร้านได้ถึง 10 สาขา ภายในระยะเวลาเพียง 8 ปี และมียอดขายรวม 200 ล้านบาท

นางปรียาวรรณ ตันตสุรฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ซีพีเอฟที่ให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้าน ที่ผ่านมาได้มีการลองผิดลองถูก แต่ในยุคปัจจุบันเมื่อมีการสนับสนุนจะทำให้มีความแข็งแรงและทำให้เกิดการขยายการลงทุนเร็วขึ้น กับเป้าหมายการไปเปิดตลาดต่างประเทศโดยตั้งเป้าไปเปิดสาขาแรกในนคร เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในปีหน้า

“ซึ่งทีมงานดัคกาลบี้ได้รับการสนับสนุนต่างๆ ทั้งในเรื่องของบุคลากร ความเชี่ยวชาญ กระบวนการและระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัย รวมทั้งเครือข่ายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้สามารถกำหนดทิศทางการเติบโต กลยุทธ์ และแผนในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ภายใต้การบริหารงานอย่างอิสระอย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่ทำให้มั่นใจได้ว่าความฝันของเราจะได้รับการต่อยอดและสามารถประสบความสำเร็จในต่างประเทศได้”

ภายหลังการสนับสนุนดังกล่าว ดัคกาลบี้ กรุ๊ป ได้เริ่มขยายเชนร้านอาหารใหม่ “WOK Station” ในสไตล์ Asian Street Food แล้วถึง 3 สาขา โดยมีสาขาต้นแบบหรือ Flagship Store ที่ 101 ทรู ดิจิทัลพาร์ค ถนนสุขุมวิท 101 และตั้งเป้าจะเปิดให้ครบ 10 สาขาภายในปี 2562 นี้

สำหรับสตาร์ตอัพทางด้านธุรกิจร้านอาหารหากมีแผนการขยายธุรกิจที่น่าสนใจอยากจะเป็นเถ้าแก่ใหม่ยุคดิจิทัลลองเสนอแผนงานไปยังซีพีเอฟเผื่อจะได้รับความสนใจช่วยผลักดันความฝันให้เป็นจริงได้.


วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ