"เพราะชาวนาคือคนสำคัญ" ซีพี ออลล์ ร่วมโรงเรียนชาวนาฯ เชิดชูชาวนาผู้ปลูกข้าว ผู้ปลูกความเป็นไทย

Economics

Thailand Econ

CSR

CSR

Tag

"เพราะชาวนาคือคนสำคัญ" ซีพี ออลล์ ร่วมโรงเรียนชาวนาฯ เชิดชูชาวนาผู้ปลูกข้าว ผู้ปลูกความเป็นไทย

Date Time: 26 ก.ค. 2562 10:10 น.
CSR

Summary

  • หากจะลองถามถึงสิ่งที่สำคัญกับชีวิตมนุษย์ แต่เรามักมองข้ามไป และไม่ให้ความใส่ใจมากนัก คำตอบที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ อาจจะเป็น “น้ำ” หรือ “อากาศ” แต่สำหรับ “คนไทย”

หากจะลองถามถึงสิ่งที่สำคัญกับชีวิตมนุษย์ แต่เรามักมองข้ามไป และไม่ให้ความใส่ใจมากนัก คำตอบที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ อาจจะเป็น “น้ำ” หรือ “อากาศ” แต่สำหรับ “คนไทย” ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่เรียกได้ว่าสำคัญไม่แพ้กัน แต่เรากลับหลงลืมเสียยิ่งกว่า เรียกได้ว่าหากไม่ถึงวันที่ขาดไปเราก็คงจะไม่คิดถึง ลองหลับตานึกสักสามวินาที แล้วเราก็จะพบคำตอบ สิ่งนั้นก็คือ “ข้าว” นั่นเอง

“ข้าว” คือ อาหารหลักของคนไทยมาช้านาน เราทุกคนต่างกินข้าวกันมาตั้งแต่เกิดจวบจนปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม “ข้าว” นั้นไม่สามารถจะเติบโตงอกงามขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง แต่จำเป็นต้องได้รับการดูแลและทะนุถนอมอย่างเข้มงวดเพื่อผลผลิตที่ได้คุณภาพจากกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังซึ่งเรียกว่า “ชาวนา” ดังนั้นหากเราจะกล่าวว่า ชาวนาผู้ปลูกข้าว หรือเป็น “ผู้ที่ปลูกความเป็นไทย” นี่คือหนึ่งในกลุ่มบุคลากรที่สำคัญอย่างยิ่งของประเทศซึ่งควรจะได้รับการยกย่องและเชิดชูอย่างมากก็คงจะไม่ผิดนัก

ซึ่งในวันนี้ เราจึงพาทุกท่านไปร่วมเชิดชูชาวนาไทยด้วยกัน และไปทำความรู้จักกับสององค์กรที่มาจับมือกันเพื่อร่วมเป็นแรงผลักดันอาชีพชาวนาและพี่น้องเกษตรกรไทยให้เติบโตและรุดหน้าไปกว่าที่เคย ซึ่งสององค์กรดังกล่าวก็คือ “ซีพี ออลล์” ร่วมกับ “โรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ไร่เชิญตะวัน” ก่อตั้งโดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือท่าน ว.วชิรเมธี กำลังเดินหน้าโครงการเสริมสร้างทักษะองค์ความรู้ให้กับชาวนาในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับอาชีพซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ

อาจจะต้องขอเกริ่นก่อนสักเล็กน้อยเพื่อพาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับ “โรงเรียนชาวนาพุทธศาสตร์ ไร่เชิญตะวัน” จ.เชียงราย หนึ่งในโรงเรียนที่น่าสนใจที่สุดของประเทศไทย เพราะนี่คือโรงเรียนที่ก่อตั้งโดย “พระ” และมีนักเรียนเป็น “ชาวนา”

เมื่อได้ยินว่าเป็นโรงเรียนชาวนา หลายท่านอาจคิดในใจว่า “ชาวนา” จำเป็นต้องมีโรงเรียนด้วยหรือ? สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจนั่นอาจเป็นเพราะถึงแม้ว่าประเทศไทยจะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตข้าวคุณภาพสูงได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งประชาชนชาวไทยยังรับประทานข้าวเป็นอาหารมื้อหลักกันอีกด้วย แต่เราก็คงต้องยอมรับกับข้อเท็จจริงที่น่าเจ็บปวดว่าชาวนาไทยนั้น ยังเป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพที่ถูกละเลยเสียเป็นส่วนใหญ่ เกษตรกรชาวนาไทยจำนวนมากถูกปล่อยให้ต้องต่อสู้กับปัญหารอบด้านเพียงลำพัง

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือท่าน ว.วชิรเมธี ที่เรารู้จักกันดี ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและเข้าไปช่วยเหลือตรงจุดนี้ จึงก่อตั้งเป็นโรงเรียนที่นำเอาศาสตร์แห่งพุทธศาสนามาใช้ในการช่วยเหลือชาวนาในพื้นที่จังหวัดเชียงรายให้มีทั้งความรู้และคุณธรรมเพื่อนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองอย่างพอมีพอกินและต่อยอดได้ในอนาคต

จากจุดเริ่มต้นในการรับนักเรียนรุ่นที่ 1 ที่ในตอนนั้นแม้แต่หลักสูตรก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะด้วยแรงศรัทธาของท่าน ว.วชิรเมธี รวมถึงเหล่านักเรียนที่ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค ณ ปัจจุบัน “โรงเรียนชาวนาพุทธศาสตร์ ไร่เชิญตะวัน” ก็ได้ดำเนินมาถึงรุ่นที่ 7 เติบโตกลายเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ตัวอย่าง” ที่ผลิตนักเรียนที่สามารถกลายเป็น “ครู” เพื่อนำความรู้ไปส่งต่ออย่างกว้างขวางให้พี่น้องชาวนาและเกษตรกร มีทั้งหน่วยงานในไทยและต่างชาติพากันมาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย แม้แต่คนธรรมดาทั่วไปก็ยังสามารถเข้าไปยังโรงเรียนแห่งนี้ได้เพื่อสัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวนาที่แท้จริงภายใต้บรรยากาศอันสงบร่มเย็นแห่งร่มกาสาวพัสตร์

และด้วยปณิธานที่สอดคล้องกัน ทาง บมจ.ซีพี ออลล์ ซึ่งแต่แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นองค์กรชั้นนำของไทยที่ให้ความสำคัญกับแนวคิด “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” เสมอมา ผ่านแนวทางหลากหลายทั้งการให้การศึกษาในรูปแบบทุนการศึกษา, ให้โอกาสในเส้นทางการทำงานด้วยการสร้างอาชีพให้ลูกจ้างมากกว่า 180,000 คน, ให้การสนับสนุน SME และเกษตรกรไทย ด้วยการนำผลิตภัณฑ์และผลผลิตมาวางขายในร้านค้าเซเว่น อีเลฟเว่นและการเข้าไปช่วยปรับปรุงพัฒนาธุรกิจ

ในครั้งนี้จึงเป็นก้าวที่สำคัญครั้งใหม่ของบริษัท ที่จะได้มีส่วนร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้กับชาวนาซึ่งถือได้ว่าเป็นฐานรากที่สำคัญที่สุดของประเทศ เพื่อร่วมเชิดชู “ชาวนาผู้ปลูกข้าว ผู้ปลูกความเป็นไทย” อันเป็นกลไกในการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับสังคมในทุกด้าน

“คุณธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของซีพี ออลล์ ได้มองว่าชาวนาเปรียบเสมือนฐานรากของพีระมิด แต่กลับไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจเท่าที่ควร เราเลยคิดว่าถ้า CP All ลุกขึ้นมามีส่วนช่วยพวกเขาก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันเป็นอะไรที่คนอื่นยังไม่ทำอย่างจริงจัง” นายบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ เล่าถึงที่มาที่ไปของแนวคิดสำคัญครั้งนี้

“การเข้ามาร่วมมือกับโรงเรียนชาวนาพุทธศาสตร์ ไร่เชิญตะวันในครั้งนี้ เราจะเข้าไปสนับสนุนทั้งด้านเงินสนับสนุนและองค์ความรู้ในด้านที่เรามี เช่นการให้ความรู้ในการขายข้าว การทำตลาด เรื่องของช่องทางออนไลน์ การทำให้ได้ผลผลิตที่ดี ให้ความสำคัญกับการทำเกษตรกรรมในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นในรูปแบบการนำวิทยากรเข้าไปให้ความรู้ รวมถึงทุนการศึกษาสำหรับลูกหลานชาวนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเขา ตามปณิธานที่ ซีพี ออลล์ ยึดมั่นมาเสมอนั่นคือ ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน”

ต้องเรียนตามตรงว่า ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นหนึ่งในคณะที่ได้เข้าไปเรียนรู้ ณ โรงเรียนชาวนาพุทธศาสตร์ ไร่เชิญตะวัน ในวันที่มีการประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ ความรู้สึกที่ท่วมท้นขึ้นมาทันทีคือความตื้นตันใจและมองเห็นเป็นภาพของความหวังที่น่าติดตามอย่างมากว่าในอนาคตไม่ไกลจากวันนี้ ชาวนาและเกษตรกรไทยซึ่งเป็นเสมือนฟันเฟืองที่สำคัญอย่างยิ่งของชาติน่าจะได้ก้าวไปเป็นอาชีพที่มีเกียรติและได้รับการเชิดชู ควบคู่ไปกับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี สมกับหยาดเหงื่อแรงกายที่ทุ่มเทลงไปอย่างแท้จริงเสียที

และเหนือสิ่งอื่นใด ประสบการณ์ที่เราได้รับกลับมาจากไร่เชิญตะวันในครั้งนี้ยังทำให้ตระหนักได้อีกว่า ไม่เพียงแค่ ซีพี ออลล์ เท่านั้น แต่เราคนไทยทุกคนยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและเชิดชูชาวนาได้เช่นกัน ผ่านการให้เกียรติในอาชีพ การเห็นคุณค่าของข้าวทุกเมล็ด และร่วมกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากข้าวของชาวนาไทยที่สามารถเชื่อมั่นได้ว่าล้วนเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งเกิดจากองค์ความรู้ และทัศนคติที่ดีมีคุณธรรม ตามหลักแนวคิดของ โรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ นั่นคือ “ความรับผิดชอบต่อสังคม เริ่มต้นจากข้าวเมล็ดเดียว”


Author

CSR

CSR