"สมคิด" ยันอย่ากังวลการเมือง พรรคร่วมเป็นสิ่งคุ้นเคยทำงานด้วยกันได้

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"สมคิด" ยันอย่ากังวลการเมือง พรรคร่วมเป็นสิ่งคุ้นเคยทำงานด้วยกันได้

Date Time: 11 ก.ค. 2562 09:10 น.

Summary

  • “สมคิด” บอกเอกชนอย่างกังวลของให้มีความเชื่อมั่น ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคนเดิม นโยบายไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อีอีซียังเดินหน้าต่อเพราะถือเป็น “เทรด มาร์ค” หรือเครื่องหมายการค้าของประเทศไทยไปแล้ว

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

“สมคิด” บอกเอกชนอย่างกังวลของให้มีความเชื่อมั่น ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคนเดิม นโยบายไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อีอีซียังเดินหน้าต่อเพราะถือเป็น “เทรด มาร์ค” หรือเครื่องหมายการค้าของประเทศไทยไปแล้ว บอกธนาคารโลกไม่ต้องกังวลเสถียรภาพการเมืองไทย พรรคร่วมเป็นสิ่งคุ้นเคย ทำงานด้วยกันได้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังพิธีมอบรางวัลเกียรติยศ Money & Banking Awards 2019 จัดโดยวารสารการเงินธนาคารว่า การมอบรางวัลครั้งนี้ผมพยายามมองดูว่ามีใครบ้าง ซึ่งมีคนที่ผมไม่รู้จักแสดงว่าประเทศไทยมีการสร้างผู้บริหารรุ่นใหม่ขึ้นมา ผมจึงเชื่อว่า ในอาเซียนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหากท่านเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ บริษัทใหม่ ผู้บริหารใหม่ๆ จะขึ้นมาสร้างประเทศในอนาคตข้างหน้า

“ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกกลบด้วยข่าวการเมืองจนกระทั่งสิ่งที่ดีของประเทศถูกกลบไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการที่ประเทศไทยถูกปรับอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันประจำปี 2562 โดย IMD World Compettitiveness Center ขึ้นมาอยู่อันดับ 25 ของโลก สภาวะเศรษฐกิจของเราแข็งแกร่งอันดับที่ 8 ของโลก แต่เรากลับให้ข่าวการเมืองมากลบ จนกระทั่งทุกคนมองประเทศไทยในแง่ลบไปแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเป็นอย่าง ยิ่งขณะนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจ เพราะว่าเจอ 2 เด้ง เด้งที่ 1 คือเศรษฐกิจโลกที่ไม่ค่อยดีจากสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน ซึ่งกระทบการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยวของโลก แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่เฉพาะเราประเทศเดียว ถ้าพยายามยืนหยัดเอาไว้ อย่าตีกันเองซะก่อน เชื่อว่าเราจะผ่านพ้นไปได้”

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดีเราก็หันมาเน้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่น คนจะลงทุนก็ต้องมีความเชื่อมั่น จะใช้จ่ายมากน้อยเพียงใดก็ดูความเชื่อมั่น ถ้าพวกเรากันเองขาดความเชื่อมั่นแล้วจะให้ใครมาเชื่อมั่นประเทศไทยและตามที่ธนาคารโลกออกมาบอกว่าประเทศเรา มีความเสี่ยงในด้านของความไม่แน่นอนทางการเมือง คือเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลนั้น

“ผมถามว่าเราไม่เคยอยู่ในการเมืองที่มีพรรคร่วมรัฐบาลหรือ เราคุ้นเคยยิ่งกว่าอะไร เพียงแต่ 5 ปีที่ผ่านมาบังเอิญไม่มีพรรคร่วมรัฐบาล ฉะนั้นความรู้สึกคุ้นเคยของพรรคร่วม จึงเป็นเรื่องปกติของประเทศประชาธิปไตย จึงไม่กระทบอะไร แล้วอย่าไปคิดว่าจะทำงานไม่ได้ ผมเชื่อว่านักการเมือง อุดมการณ์ทางเมืองสมัยนี้ เขาเป็นคนรุ่นใหม่กันแล้ว เขารู้ว่าเป้าหมายของการทำงานอยู่ที่อะไร ฉะนั้นเมื่อฟอร์มคณะรัฐมนตรีออกมา ทุกอย่างก็เตรียมเดินไปสู่ข้างหน้า ท่านนายกฯได้สั่งการให้เตรียมร่างนโยบายแถลงต่อรัฐสภา ก็ได้มีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นความไม่แน่นอนทางการเมืองก็ถือเป็นอันยุติ นักการเมืองแต่ละคนรู้จักกันดีทั้งนั้น คณะรัฐมนตรีแต่ละคน เป็นเพื่อนฝูงกันทั้งนั้น พูดคุยกันได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องกังวลเกินกว่าเหตุ”

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นประธานการประชุมผู้นำอาเซียน แต่ข่าวการประชุมของผู้นำอาเซียนถูกข่าวการเมืองกลบหมด ทำให้เราเสียโอกาส ทั้งๆที่ตรงนี้ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารเอกชนก็นั่งอยู่ตรงนี้ถ้าหากมีความมั่นใจร่วมกันก็จะสามารถเดินฝ่า มรสุมได้ และทำการเปลี่ยนแปลงของโลก ในภายหน้าพวกท่านคือหลักใหญ่ที่จะเป็นนักรบไปสู่โลกดิจิตอลและโลกแห่งครีเอทีฟ คนที่จะไปรบคือพวกท่านทั้งนั้นไม่ใช่รัฐบาล ท่านคือผู้นำในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยและอยากให้มั่นใจกับตัวเอง

“รัฐบาลชุดใหม่มีนายกรัฐมนตรีคนเดิม ฉะนั้นนโยบายจะเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไร เพราะฉะนั้นคนที่ถามเช้า ถามเย็น ว่านโยบายโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซีจะเปลี่ยนไหม มันจะเปลี่ยนได้อย่างไร มันเปลี่ยนไม่ได้ เพราะอีอีซีเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเทรดมาร์คของประเทศไทยไปแล้ว ที่ผ่านมาไม่ว่าในเวทีไหนของโลก ก็พูดถึงแต่อีอีซี ถ้าเรามีเทรดมาร์คที่ดีแบบนี้แล้วไปทำลาย เราไม่โง่ ก็บ้าแล้ว”

นายสมคิด กล่าวย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังอยู่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม แล้วพวกเราก็ช่วยกันสร้างทุกอย่างให้ดี อย่าไปกังวลเพราะไม่มีประโยชน์ช่วยกันทำงานอาจไม่ได้มากเท่าเดิม แต่อย่างน้อยเราก็ทำตัวของเราให้ผ่านไปให้ได้อย่างที่บอกว่าปีนี้ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะได้ 3.5% ซึ่งภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกแบบนี้ถ้าขยายตัวเกิน 3% ได้ ก็ถือว่าใช้การได้แล้ว ประเทศไทยดีมากๆ ไม่เช่นนั้นเงินลงทุนจากต่างประเทศจะไหลเข้ามาจนเงินบาทแข็งค่าขนาดนี้หรือ “แทนที่เราจะมองกังวลอย่างเดียว ทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็อย่าทำอย่างนั้น พวกเราไม่มีพรรคอยู่แล้ว เรามีแต่พวก ผมเองก็ไม่มีพรรค ผมมีแต่พวก ทุกอย่างทำเพื่อบ้านเมืองทั้งนั้น”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ