กรมการค้าภายใน แฉแก๊งมิจฉาชีพโกงเครื่องชั่งรับซื้อหมู อาละวาดหนักในภาคอีสาน-กลาง-เหนือ ทำเกษตรกรถูกโกงน้ำหนักตัวละ 20-30% รายได้หายวับ ร่วมมือตำรวจ-ทหาร ออกตรวจจับ
นายจรินทร สุทธนารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจและทหาร ให้ช่วยตรวจสอบและจับกุมแก๊งมิจฉาชีพโกงตาชั่งสินค้าเกษตรจากชาวบ้านอย่างเข้มงวด เพราะหากเจ้าหน้าที่ช่างตวงวัดเข้าไปตรวจสอบตามลำพัง อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ เพราะที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรว่า กลุ่มผู้มีอิทธิพล และแก๊งมิจฉาชีพได้จ้างช่างปรับเปลี่ยนแก้ไขเครื่องชั่งสินค้าเกษตรให้มีน้ำหนักเบากว่าความเป็นจริง แล้วตระเวนรับซื้อสินค้าจากเกษตร เช่น ซื้อหมู ข้าวเปลือก ฯลฯ โดยหวังเอาเปรียบเกษตรกร
ทั้งนี้ ล่าสุด พบกรณีแก๊งมิจฉาชีพขับรถปิกอัพเข้าไปตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆ ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ เพื่อรับซื้อหมูมีชีวิตในราคาที่สูงกว่าตลาดเล็กน้อย เช่น กิโลกรัม (กก.) ละ 73-75 บาท เมื่อเกษตรกรตัดสินใจขาย แก๊งมิจฉาชีพได้เร่งชั่งน้ำหนัก และให้อีกคนหนึ่งชวนคุย เพื่อไม่ให้เห็นการชั่งน้ำหนักได้ถนัด ซึ่งจากการจับกุมได้ บางแก๊งได้ตกแต่งเครื่องชั่งจนน้ำหนักของสินค้าเบากว่าความเป็นจริง 20-30% เช่น หมู 1 ตัว 100 กก. แต่ตาชั่งของแก๊งมิจฉาชีพชั่งได้เพียง 70-80 กก. ส่งผลให้เกษตรกรถูกโกงเงินไปจำนวนมาก
“ปกติแก๊งมิจฉาชีพเป็นชายฉกรรจ์ 5-6 คน จะขับรถตระเวนรับซื้อหมูจากเกษตรกรรายย่อยประมาณ 10 ตัว โดยจะเน้นเกษตรกรที่อยู่บ้านไม่กี่คน เช่น มีเฉพาะผู้หญิง หรือคนแก่ เวลาเจรจาต่อรองรับซื้อก็จะให้ราคาดี ทำให้เกษตรกรหลงเชื่อ แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วก็จะรีบนำหมูขึ้นรถปิกอัพอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจดักจับกุมบางแก๊งได้แล้ว โดยการโกงน้ำหนักจะตกแต่งเครื่องวัดเพื่อให้น้ำหนักเบาลง จนทำให้เกษตรกรบางรายต้องสูญเสียรายได้ในระดับหลักหมื่นบาท จึงขอให้เกษตรกรระมัดระวังในการขายหมูกับกลุ่มคนแปลกหน้า”.