น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า หลักการทำงานของ ก.ล.ต.จะต้องดำเนินการภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาตลาดทุนปี 2560-2564 และสอดคล้องกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ฉบับแก้ไขใหม่ โดยจะพัฒนาในทุกมิติเพื่อรองรับโลกตลาดทุนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และ ก.ล.ต.ต้องปรับภาพลักษณ์ใหม่ ผ่านแนวคิด 4 ร. คือ รุก เร็ว รอบคอบและร่วมมือ
“นโยบายสำคัญที่ต้องเร่งทำ เช่น การเข้าถึงตลาดทุน โดยต้องทำให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินในตลาดทุนได้ ซึ่งขณะนี้ กำลังศึกษาเพื่อกำหนดเกณฑ์ใหม่ให้เอสเอ็มอี สามารถเสนอขายหุ้นสามัญ แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เนื่องจากเกณฑ์เดิมไม่เอื้อให้เอสเอ็มอี เข้าระดมทุนได้ ล่าสุดได้ เตรียมทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนให้เอสเอ็มอี ที่มีคุณภาพเข้ามาระดมทุนในตลาดทุน เพราะเอสเอ็มอี มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ คิดเป็นสัดส่วน 40% ของอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)”
นอกจากนี้ จะยกระดับการคุ้มครองผู้ลงทุน โดยได้ เปิดช่องทางรับข้อเสนอแนะและเรื่องร้องเรียน ผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1207 รวมทั้งการร้องเรียนผ่านช่องทางอีเมล์ ruenvadee@sec.or.th และจะสร้างความร่วมมือกับสมาคมส่งเสริมการลงทุนไทย ให้เข้ามามีบทบาท ดูแลผู้ลงทุนให้มากขึ้น และร่วมมือกับสภาทนายความ ร่วมทำงานหรือเป็นที่ปรึกษาข้อกฎหมาย ให้กับสมาคมส่งเสริมการลงทุนไทย เรื่องคดีความในตลาดทุน ที่นักลงทุนรายย่อยเป็นผู้เสียหาย โดยเฉพาะการดำเนินคดีแบบกลุ่มล่าสุด ก.ล.ต.กำลังศึกษาความเป็นไปได้ ในการตั้งกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุน (Investor Protection Fund) เพื่อเยียวยานักลงทุน ที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนในตลาดทุน คาดว่าอีก 6-8 เดือนจะได้ข้อสรุป.