สิริโสภา จุลเสวก เวิร์กกิ้งวูแมน ที่ใช้ใจทำงานก้าวสู่ความสำเร็จ

เป็นที่รู้จักทำงานในวงการลักชัวรีแบรนด์มายาวนานนับสิบปี สิริโสภา จุลเสวก เวิร์กกิ้งวูแมนที่ตอนนี้สวมหมวกใบเดียวในฐานะผู้บริหารและหุ้นส่วนของร้านอาหารไทยชื่อดัง “นารา” ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานและแนวคิดในการทำงานที่ประสบผลสำเร็จได้อย่างน่าสนใจ

สิริโสภา หรือ “คุณยีน” ที่หลายคนรู้จัก ออกตัวว่าที่จริงที่บ้าน โดยเฉพาะคุณพ่อ (ร้อยเอก สิริ จุลเสวก คุณแม่–สุภา จุลเสวก) ซึ่งดุมาก อยากให้ลูกทั้ง 2 คนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องทำงาน ซึ่งพอ ยีน จบปริญญาตรีรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท Master of Science ที่ Boston University สหรัฐฯ ก็ยังอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำงานนานนับปี แล้วจังหวะชีวิตได้ไปฝึกงานที่บริษัท Angel Airlines อยู่ 5 เดือน จากนั้น พี่ยูกิ–นราวดี ศรีกาญจนา ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันดี มาชวนให้ไปทำงานที่ บุลการี (Bvlgari) ในส่วนของนาฬิกา เลยได้ไปเป็นผู้จัดการแบรนด์ ที่บริษัท BVL Partners Co.,Ltd. ทำอยู่ 7 ปี แล้ว Bulgari (Thailand) Co.,Ltd มาเทกโอเวอร์ ยีน เลยได้เป็น Marketing Consultant ทำอยู่ที่นี่อีก 2 ปี จากนั้นถึงได้มาทำงานที่ Christian Dior (Thailand) Co.,Ltd. ในตำแหน่งผู้จัดการแบรนด์อยู่ 9 ปี พอออกมาสู่โลกของการทำงาน จึงติดลมมาจนถึงทุกวันนี้

“คุณพ่อเคยบอกว่า ให้เป็นเจ้าหญิงอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ชอบให้ออกมาทำงาน ซึ่งพอถึงเวลาทำงาน ยีน รู้สึกว่าเราต้องทำได้ทุกอย่าง เราอยู่บ้านจะเป็นอะไรก็ตาม เราต้องแยกบทบาทให้ขาด อยู่บ้านเป็นคุณหนูได้ แต่ในที่ทำงานเราไม่ใช่คุณหนู ยีน จะบอกลูกน้องเลยค่ะ คือถ้า ยีน ใส่รองเท้าให้ลูกค้าได้ ลูกน้องก็ต้องทำได้เช่นกัน ซึ่ง ยีน ก็ทำมาแล้ว รวมทั้งเช็ดโต๊ะในร้านอาหารด้วย ในการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานลักชัวรี หรือร้านอาหารก็ตาม ยีน ถือหลักเราต้องจริงใจกับลูกค้า แล้วเราต้องพูดความจริง โดยเฉพาะสินค้าลักชัวรี เวลาที่เขาซื้อเสื้อผ้าราคาหลักแสนใส่แล้วต้องมีคนชม ถ้าไม่สวยเราก็จะไม่แนะนำ”

จากการทำงานในโลกของธุรกิจแฟชั่นแบรนด์ดังระดับโลก มาสู่การเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ผู้บริหารสาวคนนี้ บอกเป็นจังหวะชีวิตที่ไม่ได้คาดคิดเช่นกัน โดยบอกว่า จุดเริ่มต้นมาจากที่ ยีน ทำงานที่บุลการี แล้วทราบว่าที่เกษรมีพื้นที่เขาอยากทำร้านอาหาร เลยบอกพี่ยูกิ แล้วเราเลยหุ้นกันทำร้านอาหารด้วยกัน โดยใช้ชื่อว่า “นารา” มาจากชื่อ “พี่ยูกิ-นราวดี”

จากวันนั้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว จนวันนี้เรามีสาขาทั้งหมด 12 สาขา แล้วมีแฟรนไชส์ใน 8 ประเทศ ทั้งฮ่องกง, ไต้หวัน, อินเดีย ฯลฯ ซึ่งที่ประสบความสำเร็จทุกวันนี้ ยีน ว่ามาจากปากต่อปาก แล้วเราใช้ความจริงใจกับลูกค้าในการทำอาหารที่มีคุณภาพ ในรสชาติที่คงที่

“ในการทำงานยีนบอกเลยว่า เราต้องมีความเป็นเจ้าของ ทำงานเหมือนเป็นธุรกิจของเราเอง เมื่อเราคิดแบบนี้ เราก็จะทุ่มทั้งใจและกาย ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ทีมเวิร์กก็มีความสำคัญมาก เพราะคนคนเดียว ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้”...แง่คิดดีๆ ของผู้บริหารคนเก่งคนนี้.